สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินเฮลซิงกิ (ฟินแลนด์)
รถโค้ชนำท่านเดินทางเข้าสู่เขตนครเฮลซิงกิ Helsinki เมืองหลวงใหญ่ของประเทศฟินแลนด์ Finland ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ เฮลซิงกิได้รับฉายาว่าเป็น “ธิดาแห่งทะเลบอลติก” ความงดงามของสถาปัตยกรรมอันได้รับอิทธิพลจากทั้งทางฝั่งยุโรปและรัสเซีย นำท่านชมอนุสาวรีย์ซิเบลิอุส Sibelius Monument ตั้งอยู่ในสวนซิเบลิอุส สร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่ Jean Sibelius นักประพันธ์เพลงคลาสสิก เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่กลางแจ้ง ดูแปลกตาทันสมัย เป็นผลงานของศิลปิน Eila Hiltunen สร้างโดยนำเอาแท่งเหล็ก 600 แท่ง มาเชื่อมเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นรูปร่างของออร์แกนลม กว้าง 10.5 เมตร ลึก 6.5 เมตร หนัก 24 ตัน ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า จากนั้นนำท่านชมจัตุรัสซีเนท (Senate Square) ศูนย์กลางด้านการค้าใจกลางนครเฮลซิงกิ รายล้อมไปด้วยอาคารสำคัญๆ ที่สร้างในยุคที่อยู่ใต้การปกครองของรัสเซียและเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิ อาทิ มหาวิหารเฮลซิงกิ Helsinki Cathedral ส่วนหนึ่งของศูนย์กลางสไตล์เอ็มไพร์ของเฮลซิงกิที่ออกแบบโดยสถาปนิก Carl Ludvig Engel และนักวางผังเมือง Johan Albrecht Ehrenström
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์) - เรคยาวิค (ไอซ์แลนด์)
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรมหรือแบบกล่อง ให้ท่านเตรียมตัวเดินทางสู่สนามบินเฮลซิงกิ
นำท่านเดินทางเข้าสู่ กรุงเรคยาวิค เมืองหลวงประเทศไอซ์แลนด์ ชมเมืองเรคยาวิค Reykjavik เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งศิลปะ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ อาทิ คอนเสิร์ตฮอลล์และศูนย์การประชุมฮาร์ปา Harpa ของไอซ์แลนด์ จัดเป็นอาคารที่โดดเด่นที่สุดในเมืองหลวงด้วยความสำเร็จของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ กับซุ้มกระจกที่ประกอบเป็นหน้าต่างในรูปทรงที่แตกต่างกันทั้งหมด ที่นี่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับพื้นที่หินบะซอลต์ตามธรรมชาติของไอซ์แลนด์ และโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา Hallgrímskirkja โบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ เป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ของสถาปนิกกุดโยน Guðjón Samúelsson ซึ่งเป็นผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมพราสชั่นนิสท์เริ่มสร้างในปี ค.ศ.1945 จนกระทั่งแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1986 รวมเวลาก่อสร้างกว่า 38 ปี รวมทั้งผู้ที่มีความหลงใหลในทัศนศิลป์ ชมรูปปั้นที่น่าประทับใจมากมาย ทั้งประติมากรรมและศิลปะตามท้องถนนทั่วเมืองเรคยาวิค
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
เรคยาวิค - เส้นทางวงกลมทองคำ อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ – น้ำพุร้อนธรรมชาติ - น้ำตกกูลฟอสส์ – ขี่สโนโมบิล - เฮลล่า
นำท่านเที่ยวชมความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของไอซ์แลนด์ ในเส้นทางวงกลมทองคำ หรือ Golden Circle ทัศนียภาพของทุ่งหญ้าตัดกับทุ่งลาวา มีฝูงแกะ วัว และม้าไอซ์แลนด์หากินอยู่ตามธรรมชาติ นำท่านชมความงามของธรรมชาติที่สรรสร้างขึ้นภายใน อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ Thingvellir National Park ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ตั้งอยู่ระหว่างรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Þingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส Reykjanes และภูเขาไฟเฮนกิลล์ Hengill เป็นจุดกำเนิดทางประวัติศาสตร์และทางธรณีวิทยา เพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกเป็นระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร ซิงเควลลิร์ตั้งอยู่ตรงรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Singvellavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส Reykjanes และ ภูเขาไฟเฮนกิลล์ Hengill เป็นจุดกำเนิดทางด้านประวัติศาสตร์และทางธรณีวิทยา เพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร ระหว่างทางแวะชมร่องรอยปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้วมีน้ำท่วมขังจนเป็นทะเลสาบกว้าง
นำท่านชม น้ำพุร้อนธรรมชาติ Geysir น้ำพุร้อนหรือเกย์ซีร์ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กีเซอร์ที่ใช้กันทั่วโลกน้ำพุร้อนที่นี่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7 – 10 นาทีพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลกขับ เคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อน ช่วยให้อากาศอบอุ่นเย็นสบายและรัฐบาลได้นำประโยชน์จากแหล่งความร้อนทางธรรมชาตินี้มาเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ
นำท่านเดินทางสู่ กูลฟอสส์ Gullfoss (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เพื่อชมความงามของน้ำตกกูลฟอสส์ หรือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศ และยังเป็น 1 ใน3 สถานที่ในเส้นทาง “วงแหวนทองคำ” สถานที่ที่ผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ไม่ควรพลาดชื่อน้ำตก Gullfoss นี้มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่าทองคำและ Foss ที่แปลว่าน้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึงน้ำตกทองคำเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติระดับโลกที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งและลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างในระดับความสูงกว่า 30 เมตร
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองเฮลล่า Hella (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ เหมืองแห่งจุดเริ่มต้นของการล่าแสงเหนือ
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
*** สำหรับยามค่ำคืนเมื่อท่านมองไปที่บนท้องฟ้าของประเทศไอซ์แลนด์ ท่านจะมีโอกาสได้พบเห็นกับแสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) ซึ่งเป็นแสงสีเขียวที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเท่านั้น (การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสําคัญ) ***
เฮลล่า – น้ำตกเซลยาแลนส์ - น้ำตกสโกการ์ - หมู่บ้านวิค – ดิร์โฮเลย์ - หายทรายสีดำ – ถ้ำน้ำแข็งคัทลาด้วยรถซุเปอร์จี๊ป - เฮลล่า
นำท่านเดินทางสู่เส้นทางแสนสวยทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ South Coast ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการค้นพบพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งเป็นพลังงานที่ถูกนำมาใช้ทดแทนเชื้อเพลิง ทำให้ประเทศแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองที่ไร้มลพิษ นอกจากนี้พลังงานดังกล่าวยังถูกนำมาใช้ในด้านสาธารณูปโภคอีกด้วยทัศนียภาพสองข้างทางเว้นระยะไปด้วย ฟาร์มปศุสัตว์ มีภูเขาไฟเด่นตระหง่านเป็นฉากหลัง และเป็นภูเขาไฟที่ยังมีการปะทุอยู่ตลอดเวลา นำท่านถ่ายรูปกับน้ำตกเซลยาแลนส์ Seljalandsfoss น้ำตกที่มีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์และถูกขนานนามว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ ที่มีความสูงกว่า 60 เมตร และถ่ายภาพน้ำตกอีกแห่งหนึ่งคือ น้ำตกสโกการ์ Skogarfoss มีความสูง 62 เมตร ประทับใจกับความสวยงามของม่านน้ำแผ่กระจายจากหน้าผาสูงเกิดเป็นละอองฟุ้งทั่วบริเวณเบื้องล่างปกคลุมด้วยหญ้าเฟิร์นและหญ้าตระกูลมอส และโอบล้อมไปด้วยทุ่งลาวา, โตรกผา และหุบเหว เกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามจับใจ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านวิค Vik หมู่บ้านเล็กๆทางตอนใต้สุดของไอซ์แลนด์ ที่มีรายชื่อในการจัดอันดับชายหาดที่สวยที่สุดในโลกเมื่อปี ค.ศ.1991
นำท่านผจญภัยด้วยการนั่งรถจิ๊ป Super Jeep Ride ชมถ้ำน้ำแข็งธรรมชาติคัทลา Katla Ice Cave ที่ผลึกน้ำแข็งภายในถ้ำเป็นสีฟ้าและสีดำที่เกิดจากภูเขาไฟคัทลา และเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่บนธารน้ำแข็งไมร์ดาลส์โจกุล Myrdalsjokull Glacier หนึ่งในธารน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงที่สุดในไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของธารน้ำแข็งเคิทลูโจกุล เกิดเป็นธารน้ำแข็งตามธรรมชาติที่น่าประทับใจที่สุด (ใช้เวลารวม 3 ชั่วโมงสำหรับกิจกรรมนี้)
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองเฮลล่า
*** สำหรับยามค่ำคืนเมื่อท่านมองไปที่บนท้องฟ้าของประเทศไอซ์แลนด์ ท่านจะมีโอกาสได้พบเห็นกับแสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) ซึ่งเป็นแสงสีเขียวที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเท่านั้น (การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสําคัญ) ***
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
เฮลล่า - โจกุลซาร์ลอน – ไดมอนด์บีช – อุทยานแห่งชาติสเกฟตาเฟลล์ - เฮลล่า
นำท่านเดินทางสู่ โจกุลซาร์ลอน Jokulsarlon (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) ผ่านชมความงดงามของทัศนียภาพระหว่างการเดินทาง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติสเกฟตาเฟลล์ Skaftafell National Park อุทยานแห่งชาติแห่งที่ 2 ของไอซ์แลนด์ ประกอบไปด้วยภูมิทัศน์อันงดงามหลากหลายไม่ว่าจะเป็นป่าเขียวชอุ่ม ทุ่งหญ้าหลากสีสัน ภูเขาขรุขระและธารน้ำแข็งที่น่าทึ่ง และยังเป็นสวรรค์ของนักปีนเขา ถือเป็นอัญมณีอันล้ำค่าที่ชาวไอซ์แลนด์เองชื่นชอบมากที่สุด ตั้งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดเรียกว่าวาตนาเยอคูตล์ Vatnajökull มีขนาด 8,300 ตารางกิโลเมตร เท่ากับธารน้ำแข็งในทวีปยุโรปรวมกันและขนาดความหนามากที่สุดประมาณ 1,000 เมตร
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองเฮลล่า ระหว่างทางผ่านหมู่บ้าน Kirkjubaejarklaustur ชมมวลลาวาขนาดใหญ่เป็นแนวกว้างที่เกิดการเย็นลงอย่างช้าๆ ทำให้เกิดแนวแตกเป็นเสาเหลี่ยม เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่งเกิดเป็นทัศนียภาพอันงดงาม
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
*** สำหรับยามค่ำคืนเมื่อท่านมองไปที่บนท้องฟ้าของประเทศไอซ์แลนด์ ท่านจะมีโอกาสได้พบเห็นกับแสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) ซึ่งเป็นแสงสีเขียวที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเท่านั้น (การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสําคัญ) ***
เฮลล่า – บลูลากูน – เรคยาวิค
นำท่านเดินทางสู่เมืองกรินก์วิก Grindavik เมืองประมงทางตอนใต้ของคาบสมุทรเรคยาเนส เป็นที่รู้จักในด้านประวัติศาสตร์การเดินเรืออันยาวนานและอุตสาหกรรมการประมง ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่ขึ้นชื่อเรื่องภูมิประเทศภูเขาไฟที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงทุ่งลาวาและบ่อน้ําพุร้อนที่มีชื่อเสียงระดับโลก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
เรคยาวิค – ภูเขาไฟเคิร์กจูเฟล – หมู่บ้านอาร์นาสตาปิ - เรคยาวิค
นำท่านเดินทางสู่คาบสมุทรสไนล์แฟล์ส์เนส ฝั่งตะวันตกสุดของไอซ์แลนด์ที่ทอดยาวสู่มหาสมุทรแอตแลนติกมีเส้นทางกว่า 55 ไมล์ จัดว่าเป็นคาบสมุทรที่มีภูมิทัศน์สวยงาม มีชื่อเสียงในด้านภูเขาไฟที่ปกคลุมด้วยธารน้ําแข็ง ทุ่งลาวา หน้าผาบะซอลต์ และหมู่บ้านชาวประมง เรียกได้ว่าเดินทางมาเที่ยวที่เดียวได้ครบทุกบรรยากาศ
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
เรคยาวิค – สนามบินเคฟลาวิค (ไอซ์แลนด์) – สนามบินเฮลซิงกิ - ช้อปปิ้งมอลล์ (ฟินแลนด์)
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
กำหนดวันเดินทาง 8-17 เม.ย.68 มีการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินเป็น AY994 เวลาบินเป็น 17.15 น. และเดินทางถึงเฮลซิงกิ เวลา 23.40 น. ดังนั้นรายการทัวร์มีปรับรายละเอียด เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม ให้ท่านอิสระเดินเล่นในเขตเมืองเรคยาวิค ไม่ไกลจากโรงแรมที่พักท่านสามารถเดินเล่นพักผ่อนตามอัธยาศัยและถ่ายรูปกับบรรยากาศสบายๆ กับทะเลสาบ Tjornin Lake และและบริเวณท่าเรือซึ่งเป็นท่าเรือแห่งแรกของเมือง รวมถึงถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมือง City hall หรืออิสระให้ท่านถ่ายรูปหรือเข้าชม Art Museum Hafnarhus ด้วยรูปทรงของอาคารแบบร่วมสมัย ดัดแปลงจากท่าเรือเก่า ประกอบไปด้วยผลงานของศิลปินต่างๆ ระดับชาติ ให้ท่านเช็คเอ๊าท์จากที่พัก รถโค้ชรอบริการ กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน 13.00 น. ให้ท่านเตรียมตัวเดินทางสู่สนามบินเคฟลาวิค 17.15 น. ออกเดินทางจากสนามบินเคฟลาวิค โดยสายการบิน Finnair เที่ยวบินที่ AY992 23.40 น. เดินทางถึงสนามบินเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร รถโค้ชรอรับท่านนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Radisson Blu Seaside หรือระดับเดียวกัน
เฮลซิงกิ - สนามบินเฮลซิงกิ (ฟินแลนด์)
สนามบินสุวรรณภูมิ