กรุงเทพ ฯ - โดฮา
ลิสบอน – ฟาติมา – โบสถ์แม่พระฟาติมา – โกอิมบรา - มหาวิทยาลัยโกอิมบรา
นำท่านเดินทางสู่เมืองโกอิมบรา (Coimbra) อีกเมืองหนึ่งที่สำคัญของโปรตุเกส ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือแม่น้ำมอนเดโก (Mondego) ซึ่งสมัยถูกปกครองโดยอาณาจักรโรมันได้รับการเรียกขานว่า เอมีเนียม และได้ถูกยึดครองโดยชาวแขกมัวร์ ในปี ค.ศ.711 และเป็นเมืองที่เชื่อมการค้าระหว่างชาวคริสต์ทางเหนือและชาวมุสลิมทางใต้ จนในปี ค.ศ.1064 กษัตริย์เฟอร์ดินัลที่ 1 แห่งลีออน ได้รบชนะแขกมัวร์และปลดปล่อยเมืองโกอิมบรา
นำชมมหาวิทยาลัยโกอิมบรา(Coimbra University) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก่อตั้งในปี ค.ศ.1290 แต่ก็ถูกเปลี่ยนเป็นพระราชวังหลวง (Coimbra Royal Palace) โดยกษัตริย์ คิงส์จอห์นที่ 3 ในปี ค.ศ.1537 ซึ่งยังคงศิลปะสไตล์บาร็อคที่สวยงาม
โกอิมบรา - แหลมโรกา – ลิสบอน - เข้าชมมหาวิหารเจอโร นิโม
จากนั้นนำท่านเดินทางชมแหลมโรกา (Capo Da Roca) จุดที่เป็นปลายด้านตะวันตกสุดของทวีปยุโรป ซึ่งท่านสามารถซื้อใบประกาศนียบัตร (Certificate) เป็นที่ระลึกในการมาเยือน ณ ที่แห่งนี้
นำท่านเข้าชมมหาวิหารเจอโร นิโม (Jeronimos Monastry) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโกดากามา ที่เดินทางสู่อินเดียเป็นผลสำเร็จ ในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่ามานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นถึง 70 ปี จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าให้เป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage)
ลิสบอน – เซบีย่า - เข้าชมพระราชวัง Royal Alcázar of Seville
นำท่านเดินทางสู่เมืองเซบีย่า (Seville) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของสเปน ชมปลาซาเดเอสปาญา (Plaza De Espana) ที่สร้างขึ้นเมือปี ค.ศ. 1982 เป็นกลุ่มอาคารรูปครึ่งวงกลมซึ่งรวมความเป็นสถาปัตยกรรมแบบสเปนที่เรียงต่อกันเป็นแนวยาวสวยงามยิ่งนัก แต่ละซุ้มโค้งประตูมีตราประจำจังหวัดไล่เรียงตามตัวอักษร อิสระให้ท่านเก็บภาพความงามรอบบริเวณ นำท่านถ่ายรูปกับหอคอยฆีรัลดา (Giralda Tower) หอศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นโดยชาวมุสลิม เป็นตึกทรงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูง 93 เมตร ติดกันกับมหาวิหารเป็นลานส้มและน้ำพุ เพื่อใช้ในพิธีชำระร่างกายของชาวมุสลิม
จากนั้นนำท่านชมภายนอกและถ่ายรูปมหาวิหารแห่งเมืองเซบีย่า (Seville Cathedral) เริ่มสร้างใน ค.ศ.1042 และสร้างเสร็จ ค.ศ.1519 ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสาม รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม และเซนต์ปอลที่ลอนดอน และใหญ่ที่สุดในสเปน สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิค ภายในตกแต่งได้อย่างวิจิตรตระการตา สร้างขึ้นแทนที่ตั้งของสุเหร่าเดิม โดยต้องการให้ยิ่งใหญ่แบบไม่มีใครเทียบเทียมได้ ในห้องเก็บทรัพย์สมบัติล้ำค่า มีทั้งภาพเขียน เครื่องใช้ในศาสนพิธี ที่ทำมาจากทองคำและเงินล้วนแล้วแต่ประเมินค่ามิได้ ตอนกลางโบสถ์เป็นที่ตั้งของสุสานคริสโตเฟอร์โคลัมบัส ซึ่งสร้างอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติยศ เป็นหีบศพหินอ่อนที่ตั้งอยู่บนบ่่าของรูปสลักชายหนุ่ม 4 คน ซึ่งเป็นผู้แทนของ ราชอาณาจักรของกษัตริย์คาธอลิคทั้ง 2 พระองค์อันได้แก่คัสตีล เลออน อาราก็อน และนาวาร์เร
นำท่านเข้าชมพระราชวัง Royal Alcázar of Seville เป็นพระราชวังเก่าแก่ เดิมทีเป็นพระราชวังของกษัตริย์มุสลิมมัวร์ราชวงศ์อัล-โมฮัด เรียกว่า ‘พระราชวังมูวารัก’ ต่อมาเมืองเซบีย่าถูกกองทัพคริสเตียนยึดครอง และกษัตริย์เปโดร แห่งคาสตีล โปรดฯ ให้สร้างวังขึ้นมาใหม่บนที่ตั้งเดิม โดยใช้ช่างชาวมัวร์จึงทำให้พระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่นั้นมีลักษณคล้ายกับสถาปัตยกรรมของชาวมุสลิม จึงทำให้พระราชวังแห่งนี้โดดเด่นและสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบมูเดฆาร์
นอกจจากนี้ยังมีสวนสวยๆ ที่ถูกจัดตกแต่งอย่างมืออาชีพ มีครบทั้งพืชสวน ผลไม้ ดอกไม้หอม ทำให้พระราชวังแห่งเซบีย่านี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ในปี ค.ศ.1987 อีกด้วย
เซบิย่า – กอร์โดบา – โทเลโด - กรุงมาดริด
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองกอร์โดบา(Cordoba) เมืองที่สวยงามในแบบมูเดก้าและเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในยุคที่มัวร์ปกครอง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโทเลโด (Toledo) เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ทางภาคกลางของประเทศสเปน องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เมืองนี้เป็นแหล่งมรดกโลกอีกด้วย มีทัศนีภาพที่สวยงาม เนื่องจากมีแม่น้ำเทกัส ไหลผ่านเมือง นำท่านเข้าชมมหาวิหารแห่งโทเลโด (Toledo Cathedral) เนื่องจากเป็นวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสเปน รองจากวิหารเมืองเซบีญ่า ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ความงดงามอลังการสไตล์โกธิก ภายในมหาวิหารมีการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตรด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงมาดริด (Madrid) เมืองหลวงของประเทศสเปน ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียน ในระดับความสูง 650 เมตร เป็นมหานครอันทันสมัยล้ำยุค ที่ซึ่งกษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองโทเลโดมาที่นี่ และประกาศให้มาดริดเป็นเมืองหลวงใหม่ ยกเว้นในช่วงประมาณปี ค.ศ. 1601-1607 เมืองมาดริดได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และสูงสุดแห่งหนึ่งในยุโรป
มาดริด –พระราชวังหลวง - พลาซ่า มายอร์
นำท่านเข้าชม พระราชวังหลวง (Royal Palace) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส สวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังใดในทวีปยุโรป พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1738 ด้วยหินทั้งหลังในสไตล์บาโรค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆกว่า 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นคลังเก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆอาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ (หากไม่สามารถเข้าชมพระราชวังหลวงมาดริดได้ เนืองจากมีพระราชพิธีภายในหรือตั๋วเต็ม ทางบริษัทขอนำท่านชม Royal Palace of Aranjuez เป็นการทดแทน)
จากนั้นนำท่านชมอุทยานหลวงที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาล ชมอนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ในสวนสาธารณะ
มาดริด – เซอโกเบีย - ชมรางส่งน้ำโรมัน - ซาราโกซ่า
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซอโกเบีย (Segovia) เมืองท่องเที่ยวอีกเมืองหนึ่งของสเปน องค์การ UNESCO ยังได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองนี้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1985 ชมรางส่งน้ำโรมัน (Acueducto de Segovia) ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ ศตวรรษที่ 1 โดยไม่มีการใช้กาวหรือวัสดุเชื่อมหินแต่ละก้อนแต่อย่างใด จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นสิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรมโดยชาวโรมันที่สำคัญที่สุดของสเปน และยังมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดอีกด้วย รางส่งน้ำประกอบขึ้นจากหินแกรนิตกว่า 25,000 ก้อน มีความยาว 818 เมตร มีโค้ง 170 โค้ง จุดที่สูงที่สุดสูงถึง 29 เมตร จุดเริ่มต้นของรางส่งน้ำนี้ เริ่มตั้งแต่นอกเมือง แล้วลำเลียงส่งน้ำเข้ามาในเมือง รางส่งน้ำแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซอโกเบีย และเป็นไฮไลท์หลักของเมือง นำท่านเดินเล่นในเขตเมืองเก่า ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้านานาชนิดตลอดสองข้างทาง
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองซาราโกซ่า (Zaragoza) เมืองใหญ่ศูนย์กลางทางการศึกษาและศาสนาของประเทศ และเป็นเมืองที่อยู่ระหว่างกลางของบาร์เซโลน่า และ แมดริด มีความโดดเด่นมากในเรื่องของลักษณะภูมิประเทศที่มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นหุบเขา ทะเลทราย ป่าหนาทึบ
ซาราโกซ่า - La Roca Village Outlet – บาร์เซโลน่า - ถนน ลา รัมบลาส
นำท่านสู่ La Roca Village Outlet เชิญท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำมากมาย อาทิ Armani, Burberry, Calvin Klein, Coach, Escada, Gucci, Guess, Hugo Boss, Kipling, L’Occitane, Levi’s, Lacoste, Loewe, Michael Kors, Nike, Polo, Puma, Ray-Ban, Samsonite, Superdry, Swarovski, Tag Heuer, Tommy Hilfiger, The North Face, Timberland, Tumi, Versace, Zegna ฯลฯ
จากนั้นนำท่านเดินเล่นบริเวณ ถนน ลา รัมบลาส (La Ramblas) ถือเป็นถนนชื่อดังของเมืองบาร์เซโลน่า นอกจากจะสะอาดสะอ้านและมีต้นไม้คอยสร้างความร่มรื่นให้ตลอดทางแล้ว ยังมีร้านค้ามากมาย โดยที่ปลายสุดของถนนสายนี้เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส Christopher Columbus ผู้ค้นพบทวีปอเมริกาในปี ค.ศ.1492 อิสระให้ท่านเดินเล่นและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
บาร์เซโลน่า - สนามคัมป์นู - เนินเขา Montjuïc - เข้าชมภายในโบสถ์ซากราดา แฟมิเลีย - เข้าชมสวนปาร์ค กูเอล - สนามบิน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามคัมป์นู (Camp Nou) สนามฟุตบอลของสโมสรบาร์เซโลน่า ที่มีขนาดใหญ่มาก โดยมีความจุผู้เข้าชมได้ถึงเกือบ 99,000 คน ให้ท่านได้ถ่ายรูปด้านนอก พร้อมทั้งเลือกซื้อของที่ MEGA STORE ของทีมบาร์เซโลน่า นำท่านขึ้นสู่จุดชมวิวของเมืองที่ เนินเขา Montjuïc เป็นเนินเขาในบาร์เซโลน่าที่มีทัศนียภาพอันงดงาม ทางด้านตะวันออกของเนินเขายังมีหน้าผาสูงชันซึ่งทำหน้าที่เป็นดั่งกำแพงเมือง ส่วนด้านบนเป็นที่ตั้งของป้อมปราการหลายแห่ง
นำท่านเข้าชมภายในโบสถ์ซากราดา แฟมิเลีย (La Sagrada Familia) โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์สัญลักษณ์ของเมือง โดยฝีมือการออกแบบของ อันตอนี เกาดี สถาปนิกชาวคาตาลัน เป็นผลงานที่เรียกว่า โมเดิร์นนิสโม เป็นงานศิลปะเฉพาะถิ่นและเป็นอาร์ตนูโวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี 1882 แม้กระทั้งจนถึงปัจจุบันก็ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ ถึงกระนั้นองค์การยูเนสโก ก็ได้จัดให้เป็นมรดกโลก โดยมหาวิหารมีลักษณะสถาปัตยกรรมโดดเด่นแปลกตาไม่เหมือนที่ใดในโลก นำท่านเข้าชมสวนปาร์ค กูเอล (Parque Guell) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่โชว์ผลงานอันโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมของอันตอนี เกาดี สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ที่ถูกล้อมรอบด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ ด้วยรูปแบบของสถาปัตยกรรมงานกระเบื้องที่เน้นรูปทรงธรรมชาติในสีสันที่ตัดกัน ดูโดดเด่น แปลกตา และเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
นำเดินทางสู่สนามบินบาร์เซโลน่า เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund) และเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
โดฮา - กรุงเทพฯ