กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
เวียนนา – ฮัลสตัท -เดินเที่ยวชมเมืองโรแมนติก - ซาลส์บวร์ก - ชมสวนมิราเบลล์ - ถนนเกไทรย์เดอกาสเซอ
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) เมืองที่เป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart)” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก โดยเมืองซาลซ์บูร์กมีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” เยี่ยมชมเขตเมืองเก่าศิลปะบาโรกที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซัลซาค เมืองซาลซ์บูร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์คบิชอป และเป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน นำท่านชมสวนมิราเบลล์ (Mirabel Garden) ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักเพลงสวรรค์” (The Sound of Music) ที่โด่งดังไปทั่วโลก จากนั้นนำท่านเดินเท้าสู่ถนนเกไทรย์เดอกาสเซอ (Getreidegasse) ถนนชื่อดังย่านกลางเมืองเก่ามีร้านค้าแบรนด์เนมมากมาย บ้านเรือนที่ตั้งอยู่เรียงรายบนถนนสายนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15-18 ลักษณะเด่น คือมีป้ายเหล็กสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ทำด้วยมือและกรอบหน้าต่างเป็นภาพปูนปั้นแกะสลักประดับอยู่ และยังมีสถานที่ที่น่าสนใจ ได้แก่ บ้านเกิดโมสาร์ท ที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มากกว่า 20 ปี บ้านหลังนี้ถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในบ้านหลังนี้ยังทำให้เหมือนตอนที่โมสาร์ทมีชีวิตอยู่มากที่สุด
มิวนิค – เก็บภาพโอลิมปิคพาร์ค-พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก-จัตุรัสมาเรียนพลาสท์ - ฟุสเซ่น
เดินทางสู่ตัวเมืองมิวนิค Munich อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ ระหว่างทางพาท่านแวะเก็บภาพสวยๆ กับสนามฟุตบอลอัลลิอันซ์อรีนา Allianz Arena สนามเหย้าทีมฟุตบอลดังบาเบิร์นมิวนิค ทีมยักษ์ใหญ่ขากบุนเดสลีกา ซึ่งสนามแห่งนี้จุผู้ชมได้ถึง 75,000 คน ใหญ่เป็นดันดับ 2 ของประเทศเยอรมัน ด้วยทุนสร้างกว่า 340 ล้านยูโร จากนั้นเก็บภาพเพิ่มเติมกับพระราชวังนิมเฟนบวร์ก Nymphenburg Palace พระราชวังฤดูร้อนแห่งราชวงศ์บาวาเรียมาหลายศตวรรษ ตัวพระราชวังได้รับการออกแบบและตกแต่งแบบผสมผสานในสไตล์ฝรั่งเศสและอังกฤษ จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศูนย์รวมแบบอย่างงานศิลป์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป จัดเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คยอดนิยม และเก็บภาพกับอุทยานโอลิมปิก Olympic Park สถานที่ที่เคยใช้จขัดมหกรรมโอลิมปิกฤดูร้อนในปี ค.ศ.1972 เมื่อเสร็จสิ้นมหกรรม อุทยานแห่งนี้ถูกใช้เป็นสวนสาธารณะตลดจนสถานที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและสังคมต่างๆ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 530 ไร่
นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ Marienplatz ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ฟุสเซ่น (Fussen)
เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ – โบลซาโน่
นำท่านสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา Hohenschwangau เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) จากนั้นเดินทางขึ้นปราสาทเพื่อเข้าชมความสวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ Neuschwanstein Castle นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง *** หากคณะไม่สามารถเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินหน้างานท่านละ 13 ยูโร และถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นการทดแทน ***
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โบลซาโน (Bolzano)เมืองที่ถือว่าเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์และเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ เนินเขาที่เป็นป่าทุ่งหญ้า ไร่องุ่นและเทือกเขาโดโลไมท์ในทางทิศตะวันออก
อุทยานโดโลไมท์-ทะเลสาบเบรียส-ทะเลสาบมิสุริน่า -หมู่บ้านซานตา แมดดาเลนา-ทะเลสาบคาเรซซา-โบลซาโน่
ทะเลสาบเบรียส ( Lake Braies ) หรือ (Pragser Wildsee) ทะเลสาบที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมต์ และยังได้เป็นส่วนหนึ่งใน มรดกโลก (Unesco) อีกด้วย นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบมิสุริน่า (Misurina Lake) ทะเลสาบสีเขียวมรกตที่รายล้อมไปด้วยป่าสนแห่งเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูง 1,754 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่เป็นทะเลสาบที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งในแถบ Dolomite นี้เลย เนื่องด้วยความสวยงามของทะเลสาบ บางเวลาน้ำนิ่งราวกระจกเงาใส ที่นักท่องเที่ยวจะแวะเวียนมาอิสระท่าน ถ่ายภาพความงดงามของทะเลสาบจนเต็ม
นำท่านเดินทางไปชมทัศนียภาพของเทือกเขาโดโลไมท์จากระยะไกล ที่หมู่บ้าน Santa Maddalena หมู่บ้านบริเวณเชิงเขาที่ตั้งอยู่ใต้เงาของเทือกเขาโดโลไมท์ ถือว่าเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กแต่มีทัศนียภาพที่งดงามแบบอลังการพร้อมสูดอากาศอันแสนบริสุทธิ์ และนำท่านชมวิวบริเวณ Lake Carezza ทะเลสาบอัลไพน์ขนาดเล็กที่มีน้ำสีเขียวมรกตและทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขา Latemar เป็นฉากหลัง มีความสูงกว่า 1,520 เมตรจากระดับน้ำทะเล จนได้รับฉายาจากนักท่องเที่ยวว่า Rainbow Lake และ Fairytale Lake of the Dolomites
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับเมืองโบลซาโน (Bolzano)
โบลซาโ - อินส์บรูค- ลินซ์
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองอินส์บรูค (Innsbruck) เป็นเมืองหลวงของแคว้นทีโรล เป็นเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน ซึ่งคำว่าอินส์บรูคนั้น แปลว่า สะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะแคบๆแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ นำท่านชม หลังคาทองคำ (Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรูค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองลินซ์ (Linz) เมืองที่มีขนาดใหญ่อันดับ 3 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรีย ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ และเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเมืองแห่งฮิตเลอร์หรือในอดีตเคยเป็นค่ายนาซีในสมัยการปกครองของเยอรมัน เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยดีไซน์และงานศิลปะ และเมืองลินซ์กลับได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรป จากนั้นนำท่านเดินเล่นบริเวณจัตุรัสเฮาพท์ พลัทซ์ (Hauptplatz) ย่านกลางเมืองที่สำคัญของชาวเมือง ที่รายล้อมไปด้วย อาคาร 3-4 ชั้น สีสันพาสเทล ดูใหม่ต่างจากเมืองอื่นๆ มีเวลาให้ท่านเดินเล่นเลือกซื้อสินค้าตามร้านค้าอยู่มากมาย
เวียนนา – ช้อปปิ้งถนนคาร์ทเนอร์ - ชมถนนสายวงแหวน - โรงละครโอเปร่า - ถ่ายรูปพระราชวังฮอฟเบิร์ก - ถ่ายรูปพระราชวังเชินบรุนน์ - ช้อปปิ้ง Parndorf Outlet
นำท่านสู่ ย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา เชิญช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นนานาชนิด อาทิเช่น Louis Vuitton, Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer, สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara, H&M ฯลฯ และ รวมไปถึงสินค้าของฝาก เช่น ช็อคโกแลตโมสาร์ท โดยเฉพาะร้านเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ (Swarovski Crystal Worlds Store Vienna) สินค้าที่มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นอาคารขนาดใหญ่ สูง 3 ชั้น มีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกจากศิลปินที่มีชื่อระดับโลก เมื่อเข้าชมภายในอาคารจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มีจำหน่ายทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องประดับต่างๆ, นาฬิกา หรือ ของใช้ ที่มีการออกแบบตกแต่งด้วยสวาร็อฟสกี้อย่างหรูหราและลงตัว นำท่านผ่านชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่รายล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955 และผ่านชมพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากนั้นนำท่าน ถ่ายรูปคู่กับพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744 – 1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน
นำท่านสู่ Mc Arthur Glen Designer Outlet in Parndorf ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย
กรุงเทพ