กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
ดูไบ – ซูริค - สไตน์อัมไรน์- โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ – จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ – เมืองเก่าซูริค
ซุก – ลูเซิร์น –ชมสิงโตหินแกะสลัก - ชมสะพานไม้ชาเปล - เบิร์น - ชมบ่อหมีสีน้ำตาล - ชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย ท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา นำท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น Bern ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล Bear Park สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น ให้ท่านเดินลัดเลาะสู่ถนนจุงเคอร์นกาสเซ Junkerngasse ถนนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีในย่านเมืองเก่า มีบ้านอาคารสไตล์บาโรกตอนปลาย แวะถ่ายรูปกับวิหารเบิร์น Bern’s Minster วิหารสไตล์โกธิคที่สูงที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า จากนั้นเดินสู่ถนนแครมกัซเซอ Kramgasse ถ่ายรูปกับบ้านไอน์สไตน์ Einsteinhaus บ้านเลขที่ 49 ที่อัลเบิร์ตไอน์สไตน์เคยอาศัยอยู่ที่นี่ เมื่อครั้งมาทำงานเป็นผู้ตรวจสอบของสำนักงานสิทธิบัตรของสวิสช่วงปี ค.ศ.1902-1905 จากนั้นชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ Zytglogge อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆ ชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านเดินชมมาร์กาสเซ Marktgasse ที่เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี
สถานีกรินเดอร์วาร์ล - ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า Eiger Express และ นั่งรถไฟสู่ยอดเขาจุงเฟรา – ชมธารน้ำแข็งยักษ์ – เข้าถ้ำน้ำแข็ง - อินเตอร์ลาเคน - เบิร์น
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองตากอากาศที่สวยงาม เดินทางถึงสถานีกรินเดลวัลด์เพื่อขึ้นกระเช้าลอยฟ้า Eiger Express สู่สถานี Eigergletscher ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันสวยงามของยอดเขาจุงเฟรา
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อด้วยรถไฟเพื่อขึ้นสู่ สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe) โดยเมื่อปี ค.ศ. 2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขาจุงเฟราเป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ Aletsch Glacier ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ได้อีกด้วย
นำท่านเข้าชมชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice palace) ที่อยู่ลึกลงไปประมาณ 20 เมตร โดยมีการขุดเจาะถ้ำน้ำแข็งเมื่อราวปี ค.ศ. 1930 ปัจจุบันภายในถ้ำทำเป็นโพรงทางเดินให้ท่านชมและสัมผัสความหนาวภายในถ้ำ ที่อุณหภูมิ -3 องศา ภายในมีรูปสลักน้ำแข็งในแบบต่างๆ เช่น นกอินทรี เพนกวิน หรือหมี จากนั้นชมอัลไพน์ เซนเซชัน (Alpine Sensation) ที่ทำเป็นอุโมงค์ แสดงเรื่องราวย้อนเวลาไป 100 กว่าปี ของการรถไฟจุงเฟรา สมคสรแก่เวลานำท่านลงจากเขาเพื่อเดินทางต่อ นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Bern) เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลก ในปี ค.ศ.2010 อีกด้วย นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านเดินลัดเลาะสู่ถนนจุงเคอร์นกาสเซ (Junkerngasse) ถนนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีในย่านเมืองเก่า มีบ้านอาคารสไตล์บาโรกตอนปลาย นำท่านแวะถ่ายรูปกับวิหารเบิร์น (Bern’s Minster) วิหารสไตล์โกธิคที่สูงที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 จากนั้นเดินสู่ถนนแครมกัซเซอ (Kramgasse) ทำท่านชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Zytglogge) อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆ ชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านเดินชมมาร์คกาสเซ (Marktgasse) ที่เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ
หลังจากน้ันนำท่านเดินทางกลับกรุงเบิร์น (Bern)
เบิร์น - เจนิวา - น้ำพุเจทโด - เมืองโลซานน์ - มองเทรอซ์ -ถ่ายรูปปราสาทชิลยอง - ซิยง
นำท่านเดินสู่ นครเจนิวา Geneva เมืองที่เป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติและเป็นที่ตั้งองค์การสากลระดับโลก อาทิ องค์การการค้าโลก, กาชาดสากล, แรงงานสากล ฯลฯ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) นำท่านถ่ายรูปกับน้ำพุเจทโด Jet d' Eau ที่ฉีดสายน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 390 ฟุต (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับนาฬิกาดอกไม้ The Flower Clock สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนิวา
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโลซานน์ Lausanne ตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบเจนิวา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านชมเมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงามและอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ ชมสวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่า “ริเวียร่าของสวิส” ให้ท่านได้ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ นำท่านชม ปราสาทชิลยอง (Chillon castle) จากภายนอก โดยปราสาทแห่งนี้ เป็นปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองซียง (Sion)
เซอร์แมท – นั่งกระเช้าแมทเทอร์ฮอร์น- ตูริน
นำท่านเดินทางสู่เมืองทาช Tasch เพื่อนำท่านนั่งรถไฟชัตเติ้ลเข้าสู่ เซอร์แมท Zermatt เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านขึ้นกระเช้า Matterhorn Alpine Crossing เป็นกระเช้าที่เชื่อมสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลีลอยฟ้าที่สูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์ที่ความสูง 3480 เมตร สู่ยอดเขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น (Klein Matterhorn) แห่งเมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองตากอากาศยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองตูริน (Turin) หรือ โตริโน (Torino) เมืองทางตอนเหนือของ ประเทศอิตาลีในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของประเทศอิตาลีและในศตวรรษที่ 16 น้ันได้ เป็นที่ประทับของกษัตริย์แคว้นซาวอย (Savoy) ด้วย ในปัจจุบันเป็นเมืองหลวงของแคว้น Piemonte และเป็นเมืองที่มีความส าคัญในด้านอุตสาหกรรมของประเทศอิตาลี น าท่านถ่ายรูปคู่กับ พระราชวังหลวงเก่าตูริน (Royal Palace of Turin) ในอดีตเป็นที่ประทับของกษัตริย์มาหลายรัชกาล ในปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์กร UNESCO และได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสิ่งของสะสมของราชวงศ์มากมาย นำท่านสู่ จัตุรัสคาสเตลโล (Piazza San Carlo) ศูนย์กลางของเมืองตูริน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นช้อปป้ิง ถ่ายรูปตามอัธยาศัย
มิลาน – ชอปปิง OUTLET - มิลาน - แกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล - สนามบิน
นำทุกท่านช้อปปิ้งต่อที่ SERRAVALLE OUTLET ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆ อีกมากมาย
จากนั้นเดินทางสู่ตัว เมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
ดูไบ - กรุงเทพ