กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – ดูไบ
ดูไบ – มิลาน - มหาวิหารดูโอโม่
นำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน และเป็นที่ตั้งของร้านค้า ชั้นนำมากมาย รวมถึงร้านค้าแบรนด์เนมชื่อดังของโลก อาทิเช่น LV, PRADA, GUCCI, TOD’S เป็นต้น ท่านสามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึกจากด้านในซึ่งเป็นอาคารกระจกที่เก่าแก่และสวยงาม
มิลาน – เซอร์แมท -อิสระเต็มอิ่ม ณ เมืองเซอร์แมท
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์
โดยท่านสามารถเดินเท้าสู่บริเวณทะเลสาบที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,757 เมตร โดยบริเวณทะเลสาบนี้เป็นเงาสะท้อนภาพเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn's reflect) อันสุดสวยงามยิ่งนัก ( โดยปกติน้ำในทะเลสาบ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน และ สภาพอากาศ ช่วงเวลาที่เดินทางไปชมอยู่ในช่วงกลางปี (พฤษภาคม – ตุลาคม) ถ้าช่วงฤดูหนาวทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง)
เซอร์แมท – ปราสาทชิลยอง - โลซานน์ – เวเว่ย์ – เจนีวา - ตลาดคริสมาสต์เมืองเจนีวา
นำท่านเที่ยวชม เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่า “ริเวียร่าของสวิส” ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ นำท่านถ่ายรูปกับ ปราสาทชิลยอง (Chillon castle) ทางด้านนอก ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองโลซานน์ (Lausanne) เมืองที่ตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิส และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่ในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 เมื่อทรงพระเยาว์ ทรงเคยประทับและทรงศึกษาที่เมืองแห่งนี้อีกด้วย นำท่านชม สวนสาธารณะเดอน็องตู (Le Denantou) สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ ที่สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และรัฐบาลไทยได้ส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) โดยตลาดคริสต์มาสของเมืองเจนีวานั้นได้ชื่อว่าเป็นตลาดคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ให้ท่านเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาส โดยตลอดเทศกาลจะเต็มไปด้วยการประดับไฟตกแต่งเต็มถนน , ต้นคริสต์มาสขนาดยักษ์ , ร้านจำหน่ายสินค้าแฮนด์เมด ร้านจำหน่ายเครื่องประดับตกแต่งบ้าน ของที่ระลึก ขนม และอาหารพื้นเมือง รวมทั้งหมดกว่า 300 ร้าน และที่ห้ามพลาดสำหรับตลาดคริสต์มาสก็คือ “ขนมเพรทเซล” (Pretzel) ขนมพื้นเมืองของแคว้นอัลซาส ทำจากแป้งพาย มีรูปร่างเชือกที่ผูกเป็นปมหรือคล้ายผีเสื้อ ผสมด้วยส่วนผสมชนิดต่างๆ เช่น ชีส น้ำตาล ช็อกโกแลต อบเชย เมล็ดพืช และถั่ว มีรสชาติออกไปทางเค็ม และจะเข้ากันได้ดีอย่างยิ่งเมื่อทานคู่กับเครื่องดื่มที่เป็นสัญลักษณ์ของตลาดคริสต์มาสอย่าง “ไวน์ร้อน” หรือ Mulled wine ไวน์แดงต้มผสมน้ำตาลและเครื่องเทศต่างๆ เช่น โป๊ยกั๊ก เม็ดยี่หร่า อบเชย วานิลลา เปลือกส้ม หรือ เลม่อน มีรสชาติเปรี้ยวและมีกลิ่นของเครื่องเทศ ชาวยุโรปนิยมทานกันในช่วงฤดูหนาว อิสระให้ท่านได้เดินเล่นตลาดคริสต์มาสตามอัธยาศัย *** ในกรณีที่เกิดปัญหาไม่สามารถไปตลาดคริสมาต์เจนีวาได้ จะปรับไปตลาดคริสมาต์ที่เมืองซูริคแทน ***
เจนีวา – ลูเซิร์น - ซุก - ซูริค - ตลาดคริสมาต์เมืองซูริค
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792
ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน แบบสมัยใหม่ มีถนนเลียบไปตามเนินเขาตลอดระยะทาง
ากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ นำท่านสู่จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) เป็นจัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อิสระให้ท่านได้เดินชมเมือง ถ่ายรูปและเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) ให้ท่านเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาส โดยตลอดเทศกาลจะเต็มไปด้วยการประดับไฟตกแต่งเต็มถนน , ต้นคริสต์มาสขนาดยักษ์ , ร้านจำหน่ายสินค้าแฮนด์เมด ร้านจำหน่ายเครื่องประดับตกแต่งบ้าน ของที่ระลึก ขนม และอาหารพื้นเมือง รวมทั้งหมดกว่า 300 ร้าน และที่ห้ามพลาดสำหรับตลาดคริสต์มาสก็คือ “ขนมเพรทเซล” (Pretzel) ขนมพื้นเมืองของแคว้นอัลซาส ทำจากแป้งพาย มีรูปร่างเชือกที่ผูกเป็นปมหรือคล้ายผีเสื้อ ผสมด้วยส่วนผสมชนิดต่างๆ เช่น ชีส น้ำตาล ช็อกโกแลต อบเชย เมล็ดพืช และถั่ว มีรสชาติออกไปทางเค็ม และจะเข้ากันได้ดีอย่างยิ่งเมื่อทานคู่กับเครื่องดื่มที่เป็นสัญลักษณ์ของตลาดคริสต์มาสอย่าง “ไวน์ร้อน” หรือ Mulled wine ไวน์แดงต้มผสมน้ำตาลและเครื่องเทศต่างๆ เช่น โป๊ยกั๊ก เม็ดยี่หร่า อบเชย วานิลลา เปลือกส้ม หรือ เลม่อน มีรสชาติเปรี้ยวและมีกลิ่นของเครื่องเทศ ชาวยุโรปนิยมทานกันในช่วงฤดูหนาว อิสระให้ท่านได้เดินเล่นตลาดคริสต์มาสตามอัธยาศัย *** ในกรณีที่เกิดปัญหาไม่สามารถไปตลาดคริสมาต์เจนีวาได้ จะปรับไปตลาดคริสมาต์ที่เมืองซูริคแทน ***
ซูริค –ยอดเขาริกิ- ชาฟฟ์เฮาเซิน - น้ำตกไรน์ - ซูริค - สนามบิน
จากนั้นพาท่านเดินทางนั่งรถไฟไต่เขาริกิ (Rigi) ที่ถือได้ว่าเป็นรถไฟไต่เขาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และยังเป็นอันดับ 2 รองจากยอดเขาวอชิงตัน ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในสหรัฐอเมริกา ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,797 เมตร
ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm) นี้มีที่มาจากคำว่า Mons Regina แปลได้ว่า ราชินิแห่งภูเขา (Queen of the mountains) เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ติดกับพรมแดนเยอรมนี โดยสถาปัตยกรรมของบ้านเรือนในเมืองนั้นตกแต่งด้วยศิลปะแบบเรเนอซองซ์และศิลปกรรมแบบเฟรสโกรวมกับภาพวาดตามผนังของอาคารต่างๆที่บอกเรื่องราวของชาวเมืองอย่างสวยงาม นอกจากนั้นแล้วเมืองนี้ยังมีชื่อเสียงจากการที่เป็นที่ตั้งของน้ำตกไรน์ (Rhine Fall) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
นำท่านชมน้ำตกไรน์ (Rhine Falls) น้ำตกที่ใหญ่สวยงามและตื่นตาตื่นใจซึ่งเกิดจากแม่น้ำไรน์ทั้งสายไหลผ่านหน้าผากว้าง 150 เมตร จึงเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปและได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในยุโรปกลางด้วย อิสระให้ท่านได้ชื่นชมความงามของน้ำตกและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
ดูไบ - กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)