กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – ซัปโปโร (สนามบินชิโตเสะ) (TG670 : 23.45-08.30)
ซัปโปโร (สนามบินชิโตเสะ) – เมืองอาซาอิคาวะ - หมู่บ้านราเมงอาซาฮิคาวะ – สวนสัตว์อาซาฮิยามะ – ชมหมีขั้วโลกเหนือ – อิออนมอลล์ อาซาฮิคาวะ
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอาซาฮิคาวะ เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาะฮอกไกโด รองจากนครซัปโปโระมีร้านค้าที่ขายข้าวและผักที่ปลูกได้ในเมือง และยังมีร้านขายอาหารทะเลตั้งอยู่มากมาย การคมนาคมสมบูรณ์แบบ ทำให้แต่ละปีมีผู้มาท่องเที่ยวกว่า 5 ล้านคนจากทั้งในและต่างประเทศ
นำท่านชม ราเมนต้นตำรับแท้สไตล์ฮอกไกโดที่ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาวะ (Asahikawa Ramen Village) ราเมนของที่นี่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์และได้รับการกล่าวขานถึงความอร่อยมายาวนานกว่าทศวรรษ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่าได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยรวบรวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองอาซาฮิคาว่าทั้ง 8 ร้าน มาอยู่รวมกันเป็นอาคารหลังคาเดียว เสมือนหมู่บ้านราเมนที่รวบรวมร้านดังขั้นเทพไว้ในที่เดียว ในประเทศญี่ปุ่นจะแบ่งประเภทราเมนตามสูตรทั้งหมด 4 สูตร ได้แก่ ชิโอะราเมน (ราเมนผสมเกลือในน้ำซุป) โชยุราเมน (ราเมนผสมซีอิ๊วญี่ปุ่น) มิโซะราเมน ต้นกำเนิดมาจากฮอกไกโด (ผสมเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นในน้ำซุป) ทงคัตซึราเมน (ราเมนกระดูกหมูสีขาวครีม) นอกจากนี้ยังแบ่งตามสูตรของแต่ละท้องถิ่น
ชม สวนสัตว์อาซาฮิคาวะ เป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงของเมืองอาซาฮิคาวะ จุดเด่นของสวนสัตว์แห่งนี้ คือ “อุโมงค์แก้วเพนกวิน” ซึ่งจะมีการแสดงขบวนเดินพาเหรดนกเพนกวิน และอีกส่วนหนึ่งก็คือ โดมแก้วขนาดเล็ก จะเป็นโซนหมีขั้วโลกและหมาป่า ทำให้เราสามารถเห็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในขั้วโลกอย่างใกล้ชิด ในช่วงฤดูหนาวป็นช่วงที่เหมาะแก่การที่เดินทางมาชมการจัดแสดงของการเดินพาเหรดเพนกวิน อีกทั้งนี้ยังมีสัตว์ป่าพื้นเมืองของฮอกไกโด เช่น กวาง นกอินทรี หมาป่า เครน โดยเฉพาะเครนที่ตอนนี้หาชมได้ยาก เนื่องจากตอนนี้ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว
อิสระช้อปปิ้ง อิออน มอลล์ อาซาฮิคาวะ (AEON MALL) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของฮาซาฮิคาวะ อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกกัน อาทิ ขนมโมจิ เบนโตะ ผลไม้ และขนมขึ้นชื่อของญี่ปุ่นอย่าง คิทแคท สามารถหาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน
อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
สวนดอกไม้ ชิคิไซโนะโอกะ – บลูพอนด์(บ่อน้ำสีฟ้า) – น้ำตกชิโรฮิเงะ - โรงงานชีสฟูราโน่ - เมืองซัปโปโร – MUTSUI OUTLET PARK SAPPORO
เดินทางสู่ สวนชิคิไซโนะโอกะ (Shikisai no Oka) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เนินเขาแห่งสีสันทั้งสี่" ตั้งอยู่ในเมืองบิเอะ แห่งจังหวัดฮอกไกโด เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่มีดอกไม้หลากสีสันบานสะพรั่งตลอดทั้งปี สวนแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์อันงดงามซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ถูกยกให้เป็นสวนสรรค์ของคนรักดอกไม้นานาสายพันธุ์ เรียกได้ว่ามีความงดงามให้ได้ชมกันทุกๆฤดูกาล โดยจะมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์หมุนเวียนพากันมาอวดโฉมมากกว่า 30 ชนิด ทั้งดอกทิวลิป ลาเวนเดอร์ ดอกทานตะวัน และอื่นๆอีกเพียบ มีฟาร์มอัลปาก้าที่พร้อมแจกความสดใสให้คุณ แวะไปให้อาหาร เล่นกับน้องได้อย่างใกล้ชิดในทุกฤดูกาล และจะมี "โรลคุง" (Roll-Kun) มาสคอสที่ทำด้วยฟางหญ้ายืนต้อนรับคุณอยู่ (ดอกไม้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี)
นำท่านเดินทางสู่ สระน้ำสีฟ้า (Aoiike Blue Pond) ตั้งอยู่ที่บริเวณเเม่น้ำบิเอะกาวะ ของเมืองบิเอะ โดยเกิดขึ้นมาจากการกั้นเขื่อนเพื่อป้องกันไม่ให้โคลนจากภูเขาไฟโทคาจิที่ปะทุขึ้นมาแล้วเข้าสู่เมือง เมื่อประมาณปี ค.ศ.1988 ซึ่งชื่อของสระน้ำสีฟ้า ตั้งชื่อตามสีของน้ำในสระที่เกิดจากแร่ธาตุตามธรรมชาติในก้นสระ โดยเกิดมาจากโคลนภูเขาไฟโทคาจิ ทำให้น้ำในสระมีสีฟ้าและใสมากกว่าสระน้ำตามธรรมชาติทั่วไป อีกทั้งยังมีตอไม้จำนวนมากที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ มองแล้วสวยงามแปลกตาอย่างมากด้วย ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม เงียบสงบ
น้ำตกชิราฮิเกะ (Shirahige Waterfall) ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากกลุ่มธารน้ำที่ไหลออกมาจากหน้าผา และไหลลงสู่ลำธารเบื้องล่าง น้ำตกที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งหาชมได้ยาก โดยแม่น้ำบิเอะซึ่งไหลอยู่ใต้น้ำตก มักถูกเรียกว่า "แม่น้ำสีน้ำเงิน" เนื่องจากมีสีฟ้าโคบอลต์เข้ม แถมยังใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ เพราะรอบๆ มีต้นไม้ที่ร่มรื่นเขียวชอุ่มในฤดูร้อน และมีสะพานที่เรียกว่า Blue River Bridge ที่สร้างขึ้นสำหรับดูความสวยงามของแม่น้ำแห่งนี้ ซึ่งความโดดเด่นของสีฟ้าสดใสของแม่น้ำแห่งนี้ ภาพแม่น้ำสีฟ้าและธารน้ำตกสีขาวตัดกันออกมาเป็นภาพของธรรมชาติที่น่าทึ่งและสวยงามมาก
เดินทางสู่ โรงงานผลิตชีสเมืองฟูราโน่ (Furano Cheese Factory) แหล่งผลิตชีสคุณภาพชั้นยอดอันเลื่องชื่อของเมืองฟูราโน่ นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอีกเเห่งของเมืองฟูราโน่ ประเทศญี่ปุ่น ภายในโรงงานนั้นมีการผลิตชีสท้องถิ่นฮอกไกโดอย่างคาเมมเบิร์ท โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมการผลิตอย่างใกล้ชิดผ่านกระจกภายนอก เเละมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองชิมความอร่อยของชีสชนิดนี้อีกด้วย โดยชีสที่ถือเป็นไฮไลต์ที่แปลกแบบสุดๆก็คือ ชีสดำ ถือว่าเป็นชีสพิเศษที่หาทานได้ที่เท่านั้น นอกจากนี้เเล้วก็ยังมีทั้งในส่วนของโรงงานไอศกรีม เเละโรงงานพิซซ่า ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาร่วมทำเวิร์กช็อปกันด้วย (ไม่รวมค่ากิจกรรมทำทำเวิร์กช็อป)
นำท่านเข้าสู่เมืองซัปโปโร ช้อปปิ้ง MITSUI OUTLET PARK SAPPORO เป็นห้างสรรพสินค้ารูปแบบ Outlet mall ขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ตั้งอยู่ที่เมือง Kita-Hiroshima ชานเมืองทิศตะวันออกซัปโปโร ใกล้เส้นทางที่ไปยัง สนามบินชิโตเซะ เปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายน ปี 2012 ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์ต่าง ๆ กว่า 128 ร้าน รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์อาหารขนาดใหญ่จุ 650 ที่นั่ง และร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าจากฟาร์มท้องถิ่นประจำจังหวัดฮอกไกโด
อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ศาลเจ้าฮอกไกโด – โรงงานช็อกโกแลต - คลองโอตารุ – พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี – ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ – ร้านDuty Free – พิเศษบุฟเฟ่ต์ร้าน NANDA ดีที่สุดในซัปโปโร
นำท่านสู่ ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido shrine) ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ซัปโปโร เป็นศาลเจ้าศาสนาพุทธนิกายชินโตถือเป็นศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่งในเกาะฮอกไกโด ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1871 ในปัจจุบันก็ยังคงมีความเกี่ยวข้องผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวฮอกไกโดอย่างลึกซึ้ง เริ่มตั้งแต่การมาสักการะในวันปีใหม่ การปัดเป่ารังควาญ วันเซ็ตสึบุน พิธีสมรสและอื่น ๆ เป็นต้น ในเขตศาลเจ้าที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีกระรอกป่ามาเยี่ยมทักทาย
แวะซื้อของฝากที่ โรงงานช็อคโกแลตอิชิยะ (Shiroi Koibito Park) แหล่งผลิตช็อคโกแลตที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ตัวอาคารของโรงงานถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรปแวดล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ ซึ่งมีช็อคโกแลตที่ขึ้นชื่อที่สุดของที่นี้ คือ Shiroi Koibito ซึ่งมีความหมายว่า ช็อคโกแลตขาวแด่คนรัก ท่านสามารถเลือกซื้อกลับไปให้คนที่ท่านรักทานหรือว่าซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านได้
เมืองโอตารุ (Otaru) เป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร นำท่านชม คลองโอตารุ (Otaru Canal) ที่มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ คลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีกครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยมีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตร
พิธภัณฑ์กล่องดนตรี พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุเป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมือง
ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ เพลิดเพลินกับบรรยากาศน่ารัก ๆ ของตัวการ์ตูนแมวชื่อดัง คิตตี้ ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
ร้านดิวตี้ฟรี (Duty Free) จำหน่ายของฝากของที่ระลึกปลอดภาษี ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซัปโปโร ภายในมีสินค้าลดราคามากมาย ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าภายในร้าน เช่นขนม เครื่องสำอาง ของที่ระลึก และสินค้าอื่นๆอีกมากมาย
อิสระช้อปปิ้งและท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร
ให้ท่านได้อิสระท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร แหล่งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชื่อดังและร้านค้ามากมาย รวมไปถึงที่เที่ยวจุด Check in ต่างๆมากมาย อาทิเช่น”
นั่งกระเช้าขึ้นสู่ ภูเขาโมอิวะ (Mt.moiwa) เป็นจุดชมวิวยอดฮิตของเมืองซัปโปโร่ โดยภูเขาแห่งนี้ขึ้นชื่อมากกับการเป็นจุดชมวิวเมืองที่ดีงามแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวัน หรือ ช่วงกลางคืนที่จะสว่างไสวด้วยแสงไฟจากตัวเมือง นอกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมมาชมวิวที่นี้แล้ว ชาวเมืองซัปโปโร่นั้นยังนิยมมาที่นี้ ในฐานะ “สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนรัก”
ตลาดปลานิโจ (Nijo Ichiba) ตลาดเก่าแก่กว่า 100 ปี เป็นหนึ่งในตลาดยอดนิยมของทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ได้มาสัมผัสบรรยากาศตลาดปลาญี่ปุ่น และเลือกชิมอาหารทะเลสดๆ ตามอัธยาศัย
JR TOWER แหล่งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชื่อดังและร้านค้ามากมายให้ท่านได้ช้อปปิ้ง เช่น ร้าน BIC CAMERA จำหน่ายกล้องดิจิตอล, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์, ร้าน 100 เยน, ร้าน UNIQLO ขายเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่นอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นบนชั้น 10 ของตึก ESTA ยังมี พิพิธภัณฑ์ราเมน เป็นแหล่งรวมราเมนชื่อดังทั่วทั้งเกาะฮอกไกโด มาอยู่รวมกันที่นี่ ให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบราเมนได้ลิ้มรสชิมราเมนจากเมืองต่างๆ ได้อย่างจุใจ
ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2416 เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อคอเมริกา ที่เลียนแบบมาจากอาคารทำเนียบรัฐบาลแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ที่ใช้อิฐมากกว่า 2.5 ล้านก้อนเป็นอิฐที่ทำมาจากหมู่บ้านชิโรอิชิและโทโยชิร่า ตึกนี้ผ่านการใช้งานมายาวนานกว่า 80 ปีและได้ย้ายไปที่ทำการหลังใหม่เป็นตึกใหม่ทันสมัยสูง 10 ชั้นตั้งอยู่ทางด้านหลังตึกเก่า แต่ความงดงามที่เห็นนั้นได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่หลังจากถูกไฟไหม้เมื่อปี พ.ศ.2454 แต่ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมสำคัญของชาติเมื่อปี พ.ศ. 2512
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) ด้านในของพิพิธภัณฑ์จะแนะนำประวัติของเบียร์ในญี่ปุ่น และกระบวนการขั้นตอนการผลิตเบียร์ ทั้งความละเอียดของข้อมูลและการจัดแสดง ด้านหลังนิทรรศการมีให้ชิมเบียร์ฟรีอีกด้วยถ้าเดินทางเพลินจนเหนื่อยแล้วอยากหาที่นั่งชิลๆ พร้อมเติมพลังและเบียร์ที่ชิมมันน้อยเกินไป ก็สามารถเดินไปใกล้ๆกับตัวพิพิธภัณฑ์ได้ เนื่องจากเป็นสวนเบียร์ซัปโปโร(Sapporo Beer Garden) ประกอบด้วยร้านอาหาร 2 ร้าน คือ Garden Grill และ Genghis Kan Hall มีบรรยากาศสบายๆกับการดื่มเบียร์ และรับประทานบาร์บีคิวเนื้อแกะ ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นที่นิยมมากๆและไม่อยากให้พลาดทีเดียว
อิสระอาหารกลางวันและอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ซัปโปโร (สนามบินนิวชิโตเสะ) – กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) (TG671 : 10.30-15.30)
นำท่านเช็คเอาท์และตรวจสอบสัมภาระก่อนเดินทางไปยัง สนามบินชิโตเสะ
ถึง สนามบินชิโตเซะ ทำการเช็คอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระ