Support
รวมโปรล่องเรือเจ้าพระยา Dinner Cruise
094-9716464
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

เบอร์ลินฉ่ำๆ หม่ำๆ ขาหมู เยอรมนี – เชก - ออสเตรีย 8วัน 5คืน โดยสายการบิน Emirates (EK) -

  • ทัวร์ : Austria [ ออสเตรีย ]
  • เที่ยวเมือง : Berlin (เบอร์ลิน)
  • สายการบิน : Emirates
  • รหัสโปรแกรม : T10373
  • Code : GO3FRA-EK006
  • ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
  • ระยะเวลา : 8 วัน 5 คืน

ราคาเริ่มต้นที่ ฿75,900

ไฮไลท์ทัวร์ Highlight

แฟรงค์เฟิร์ต – เวิร์ซบวร์ก - เออร์เฟิร์ต - กรุงเบอร์ลิน – อนุสรณ์สถานกำแพงเบอร์ลิน – เช็คพอยท์ชาร์ลี - ประตูบันเดนบรูก - พอตทสดัม – เข้าชมความงามของพระราชวังซองส์ซูซี - เดรสเดน - โบสถ์พระแม่มารี - ปราก – สะพานชาร์ล - ปราสาทปราก - เวียนนา -ถนนคาร์ทเนอร์ - Mc Arthur Glen Designer Outlet in Parndorf

ระยะเวลาเดินทาง

จำนวนที่นั่ง

ราคาเริ่มต้น

สถานะ

05 ธ.ค. - 12 ธ.ค.

35

76,900

รายละเอียดโปรแกรม
วันที่ 1

กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – ดูไบ

17.30 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบินเอมิเรทซ์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
20.35 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK373
วันที่ 2

ดูไบ – แฟรงค์เฟิร์ต – เวิร์ซบวร์ก - เออร์เฟิร์ต

00.50 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
03.20 น. ออกเดินทางจากต่อสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต สู่ประเทศเยอรมนีโดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK43
07.35 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานฟรังค์ฟวร์ทอัมไมน์ เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) หลังจากนั้นผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

เดินทางถึงท่าอากาศยานฟรังค์ฟวร์ทอัมไมน์ เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) หลังจากนั้นผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรหลังจากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สำคัญของประเทศ ผ่านชมสถานีรถไฟแฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟต้นแบบของหัวลำโพงประเทศไทย ครั้งเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5 นำชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวิร์ซบวร์ก (Wurzburg) อยู่ทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน และเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก นำท่านชมความงดงามของเมืองมรดกโลก ศาลาว่าการเมือง (City Hall) ถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองเวิร์ซบวร์ก (Wurzburg Cathedral) ที่สร้างขึ้นเมื่อปี คศ. 788 ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบโรมาเนสก์ จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ เรสซิเดนส์ ออฟ เวิร์ซบวร์ก (Residence of Wurzburg ) สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 เป็นส่วนนึงของพระราชวังเก่า (Baroque Palace) สร้างแบบสถาปัตยกรรมบาโรก และได้มีการบูรณะหลายครั้งเนื่องจากถูกทำลายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และด้านนอกมีสวนที่สวยงาม มีรูปปั้นและแปลงดอกไม้สวยๆ ให้ได้ชื่นชม

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเออร์เฟิร์ต (Erfurt)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก RADISSON BLU ERFURT หรือเทียบเท่า
วันที่ 3

เออร์เฟิร์ต – กรุงเบอร์ลิน – อนุสรณ์สถานกำแพงเบอร์ลิน – เช็คพอยท์ชาร์ลี - ประตูบันเดนบรูก

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านสู่ กรุงเบอร์ลิน (Berlin) เมืองหลวงของประเทศเยอรมัน หนึ่งในศูนย์กลางที่มีอิทธิพลที่สุดของยุโรป ในด้านการเมือง วัฒนธรรม สื่อสารมวลชน และวิทยาการ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน)
บ่าย นำท่านชม อนุสรณ์สถานกำแพงเบอร์ลิน (The Berlin Wall) เข้าสู่อีสต์-ไซด์-แกลลอรี่ ที่ทิ้งร่องรอยของกำแพงเบอร์ลิน ฉากต่างๆที่เกิดจากการพลัดพรากของเหตุการณ์วันที่ 13 สิงหาคม 1961 วันเริ่มการสร้างกำแพงที่มีความยาวกว่า 100 ไมล์ สูง 4 เมตร ถูกถ่ายทอดเป็นภาพวาดที่เกิดจากศิลปินกว่า 118 ท่านบนซากกำแพงกว่า 1,200 หลา ที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆแทนคำพูดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเป็นภาพเขียนศิลปะที่ยาวที่สุดในโลก นำท่านชมเช็คพอยท์ชาร์ลี (Checkpoint Charlie ) ซึ่งเป็นเขตพรมแดนการปกครองระหว่างอเมริกันและรัสเซีย จากนั้นไปชมเบอร์ลินโดม มหาวิหารโปรเตสแตนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี สร้างในระหว่างปี 1894-1905 ในรูปแบบสไตล์อิตาเลียนเรอเนสซองส์ แล้วพาท่านไปถ่ายรูปกับประตูบันเดนบรูก (Brandenburg) ประตูสัญลักษณ์ของเมืองด้านบนเป็นรูปปั้นของเทพีแห่งชัยชนะสีทองเด่นตระหง่าน และพลาดไม่ได้กับการถ่ายรูปกับอาคารไรช์สตัทด์ อาคารที่ใช้เป็นรัฐสภาแห่งเยอรมนี สร้างขึ้นด้วยศิลปะอิตาเลียนเรอเนสซองส์ ในปี 1884-1894 อาคารรัฐสภาแห่งนี้ถูกใช้มาตั้งแต่ครั้งสาธารณะรัฐไวมาร์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก LEONARDO BERLIN หรือเทียบเท่า
วันที่ 4

เบอร์ลิน – พอตทสดัม – เข้าชมความงามของพระราชวังซองส์ซูซี - เดรสเดน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำเดินทางสู่เมืองพอตทสดัม (Potsdam) เมืองหลวงของรัฐบรันเดนบูร์ก อดีตที่ประทับของกษัตริย์และเจ้าผู้ครองเยอรมันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เมืองศูนย์รวมเหล่าผู้เชี่ยวชาญศิลปะแขนงต่างๆ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเข้าชมความงามของพระราชวังซองส์ซูซี (Sanssouci Palace) เป็นอดีตพระราชวังฤดูร้อนของพระเจ้าฟรีดริชที่ 2 แห่งปรัสเซีย สร้างขึ้นในศิลปะแบบโรโคโค โดยสถาปนิกชื่อ จอร์จ เวนซเลาส์ ฟอน คโนเบิลสดอร์ฟฟ์ เป็นพระราชวังที่พระเจ้าฟรีดริชโปรดปรานมาประทับในฤดูร้อน และใช้เป็นที่หลบจากความวุ่นวายในพระราชพิธีต่างๆที่เบอร์ลิน จึงเป็นที่มาของชื่อพระราชวังที่แปลว่า “ไกลกังวล” พระราชวังเป็นอาคารชั้นเดียวที่ประกอบไปด้วยห้องต่างๆเพียง 10 ห้อง หลังจากหมดรัชสมัยของพระเจ้าฟรีดริช พระราชวังซองส์ซูซี ยังเป็นที่โปรดปรานของเจ้านายเยอรมันจนเมื่อราชวงศ์โฮเฮ็นซอลเล็นมาสิ้นสุดลงเมื่อปี ค.ศ. 1918 และหลังจากการรวมตัวระหว่างเยอรมนีตะวันออกและตะวันตกในปี ค.ศ. 1990 ร่างของพระเจ้าฟรีดริชที่ 2 ก็ถูกนำกลับมาฝังบนเนินที่ซ็องซูซีตามพระราชประสงค์เดิมของพระองค์ก่อนที่จะเสด็จสวรรคต พระราชวังซ็องซูซีและอุทยานได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1990 ภายใต้ชื่อว่า "พระราชวังและสวนแห่งพอทสดัมและเบอร์ลิน เดินทางต่อสู่ เมืองเดรสเดน (Dresden) ได้รับสมญานามว่าเป็น “ฟลอเร้นซ์แห่งแม่น้ำเอลเบ้” ว่ากันว่าเป็นเมืองที่สวยงามที่สุดในประเทศเยอรมนี เมืองนี้ได้กลับมามีบทบาทในฐานะเมืองหลวงของแซกโซนี่อีกครั้งหนึ่งในปี ค.ศ.1990 หลังจากมีการรวมประเทศ เมืองได้ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่อย่างมีขั้นตอนอันสืบเนื่องมาจากผลแห่งการทำลายล้างของสงครามโลกครั้งที่สอง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก INTERCITY DRESDEN หรือเทียบเท่า
วันที่ 5

เดรสเดน – โบสถ์พระแม่มารี - ปราก – สะพานชาร์ล

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเที่ยวชมเมืองเดรสเดน ชม โบสถ์พระแม่มารี (Frauenkirche) อดีตฐานรากของเมืองที่วางไว้ตั้งแต่สมัยกลางศตวรรษที่ 11 ที่ทิ้งร่องรอยของการทำลายล้างในสมัยสงครามโลกที่กำลังได้รับการบูรณะอย่างเร่งด่วน ผ่านชมเซมเพอร์โอเปร่าเฮ้าส์ (The Semper Opera House) ที่มีความโดดเด่นอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและดนตรี ผ่านชมพระราชวังสวิงกอร์ (Zwinger Palace) ผลงานชิ้นเอกรูปแบบบาร็อคบนฝั่งแม่น้ำเอลเบ้ ที่ตกแต่งอย่างงดงามด้วยน้ำพุและรูปปั้น
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำคณะเดินทางสู่ กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐเชคโกสโลวาเกีย ซึงได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท และโรมแห่งอุดรทิศ จากนั้นนำท่านเดินเล่นบน สะพานชาร์ล (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวา สไตล์โกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 สมัยพระเจ้าชาร์ลที่ 4

ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพานกว่า 30 องค์ ชมประตูเมืองเก่า “Powder Gate” ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ, ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Old town Hall) ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1338 มีจุดเด่นคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ที่สวยงามและยังตีบอกเวลาทุกๆ ชั่วโมง ให้เวลาท่านเดินอิสระเดินเล่นย่านเมืองเก่า ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง เช่น เครื่องแก้วโบฮีเมียน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก DUO PRAGUE หรือเทียบเท่า
วันที่ 6

ปราก - ปราสาทปราก - เวียนนา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่าน ชมปราสาทแห่งปราก (Prague Castle) ภายนอกที่สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslid ซึ่งปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1918 นำชม มหาวิหารเซนต์วิตุส (St.Vitus Cathedral) อันงามสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น ชมพระราชวังหลวง (Royal Palace) ที่เป็นหนึ่งในส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท ใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชายโบฮีเมียนทั้งหลาย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน (เป็ดปักกิ่ง)

จากนั้นเดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย
ค่ำ พิเศษ อาหารค่ำที่ภัตตาคารท้องถิ่นแบบ “ฮอยริเก้” ( HEURIGE ) ในหมู่บ้านกรีนซิ่ง (GRINZING) พร้อมชิมไวน์สดของหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงก้องโลกพร้อมสนุกสนานในบรรยากาศดนตรีพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก QUALITY HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 7

เวียนนา - ถนนคาร์ทเนอร์ - Mc Arthur Glen Designer Outlet in Parndorf - สนามบิน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านนั่งรถชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ.1955, ผ่านพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 นำท่านสู่ย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา เชิญช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นนานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton,Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯลฯ และ รวมไปถึงสินค้าของฝาก เช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท โดยเฉพาะร้านเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ ((Swarovski Crystal Worlds Store Vienna) สินค้าที่มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นอาคารขนาดใหญ่ สูง 3 ชั้น มีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกจากศิลปินที่มีชื่อระดับโลก เมื่อเข้าชมภายในอาคารจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มีจำหน่ายทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องประดับต่างๆ ,นาฬิกา
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ Mc Arthur Glen Designer Outlet in Parndorf ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย
17.30 น. ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
21.55 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK126
วันที่ 8

ดูไบ - กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)

06.35 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น. ออกเดินทางต่อจากสนามบินดูไบกลับประเทศไทย โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK372
18.40 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
มื้ออาหาร
วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
8
รายละเอียดและเงื่อนไข

1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท + ค่าวีซ่า 5,900 บาท (ค่ามัดจำ + ค่าวีซ่า ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้)
***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
2. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า ภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
3. เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
4. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
5. การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
6. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

  1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
  2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
  3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
  4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
  5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
  6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
  7. ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ วงเงินสูงสุด 3,000,000 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด ความคุ้มครองเป็นตามกรมธรรม์ประกันภัย)
  8. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
5. ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศเยอรมนี รวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,900.-บาท) 
6. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น  (12 ยูโร/ต่อท่าน) 
7. ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (24 ยูโร/ต่อท่าน)