สนามบินสุวรรณภูมิ
สนามบินมิวนิค – จัตุรัสมาเรียนพลาสท์ - ซาลสบวร์ก
จากนั้นรถโค้ชรอรับท่านเดินทางสู่ตัวเมืองมิวนิค Munich อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์
นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ Marienplatz ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น.
ซาลสบวร์ก – ฮัลสตัท – เชสกี้ครุมลอฟ - เชสกี้ บูดาโจวิค
นำท่านเดินทางสู่ฮัลสตัท Hallstatt หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปีเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน อิสระให้ท่านเดินเล่นชมความสวยงามของเมืองและเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
เชสกี้ บูดาโจวิค - คาร์โลวี วารี – ปราก – สะพานชาร์ล - เมืองเก่าแห่งปราก
นำท่านเดินทางสู่ คาร์โลวี วารี (Karlovy vary) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสปา ที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐเช็ก เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่าเป็นศูนย์กลางบำบัดโรคภัยต่างๆ นำเดินชมเมืองคาร์โลวี วารี ปัจจุบันเป็นที่นิยมของผู้คนทั่วโลกที่จะมาใช้บริการรักษาสุขภาพ ตามความเชื่อที่มีมาแต่สมัยโบราณ เชิญท่านทดลองดื่มน้ำแร่ ซึ่งต้องดื่มกับแก้วพิเศษโดยเฉพาะ เป็นแก้วพอร์ซเลนที่มีปากยื่นออกมาเหมือนกาน้ำ
ปราก – ปราสาทแห่งปราก - คุทนาโฮรา - บราติสลาวา
นำท่านชมภายนอกของปราสาทแห่งปราก Prague Castle สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslid ซึ่งปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1918 นำท่านชมภายนอก มหาวิหารเซนต์วิตุส St.Vitus Cathedral อันงามสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น ชมพระราชวังหลวง Royal Palace ที่เป็นหนึ่งในส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท ใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชายโบฮีเมียนทั้งหลาย
บราติสลาวา – ปราสาทบราติสลาวา – บูดาเปสต์ -ป้อมชาวประมง - ล่องเรือแม่น้ำดานูบ
นำท่านชมบรรยากาศของกรุงบราติสลาวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งสโลวัก นำท่านถ่ายรูปคู่กับปราสาทบราติสลาวา Bratislava Castle ซึ่งเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งอยู่บนเนินเขา ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ท่านสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองได้จากมุมของปราสาทแห่งนี้ อิสระให้ท่านเดินเล่นย่านเมืองเก่าที่สวยงามของกรุงบราติสลาว่า ชม โบสถ์สีน้ำเงิน Blue Castle โบสถ์ของศาสนาคริสนิกายโรมันคาทอลิคอีกแห่งหนึ่งที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แตกต่างโดดเด่น ด้วยสีน้ำเงินของตัวอาคาร ตั้งอยู่โซนย่านเมืองเก่า ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับ มหาวิหารเซนต์มาร์ติน St. Martin’s Cathedral โบสถ์โกธิค สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 เป็นโบสถ์ที่ใช้สำหรับพิธีบรมราชาภิเษก บนยอดหอคอยของโบสถ์ ที่มีความสูง 85 เมตร ภายในมีรูปจำลองมงกุฎที่มีน้ำหนักถึง 150 กิโลกรัม ติดตั้งอยู่ เพื่อเป็นสิ่งแสดงถึงอดีตที่เคยรุ่งโรจน์
บูดาเปสต์ - Parndorf Outlet – เวียนนา - ถนนคาร์ทเนอร์
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศออสเตรียอีกครั้งโดยเดินทางสู่ Parndorf Outlet พรีเมี่ยมเอ๊าท์เล็ตขนาดใหญ่ ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆ อีกมากมาย
เวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์ - ชมเมืองเวียนนา – พระราชวังฮอบสบวร์ก - สนามบินเวียนนา
นำท่านเข้าชมความงดงามของพระราชวังเชินบรุนน์ Schoenbrunn Palace แห่งราชวงศ์ฮับสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744 – 1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง และสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายของฝรั่งเศส
สนามบินสุวรรณภูมิ