สนามบินสุวรรณภูมิ
สนามบินดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ปารีส - ประตูชัย - หอไอเฟล – ล่องเรือแม่น้ำแซน – พิพิธภัณฑ์ลูฟท์ - ห้างลา ซามาริแตง (ฝรั่งเศส)
นำท่านเดินทางสู่มหานครปารีส Paris เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแลวัฒนธรรมที่ล้าสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทาให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สาคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นาเที่ยวชมความงดงามของมหานครปารีส ผ่านชมความสวยงามของแม่น้าแซนน์ที่ตัดผ่านใจกลางกรุงปารีส ข้ามสะพานสู่ เกาะเดอ ลา ซิเต้ กลางแม่น้าแซน ผ่านลานประวัติศาสตร์จัตุรัสคองคอร์ด Place de la Concorde ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเนต ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส แล้วผ่านเข้าสู่ถนนสายโรแมนติก ชองป์เอลิเซ่ Champs Elysees ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัยนโปเลียน นำชมและถ่ายรูปคู่กับประตูชัยนโปเลียน Arc de Triomphe สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนในศึก เอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836 แล้วจากนั้นนำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหอไอเฟล Tour Eiffel สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1889 ที่บริเวณจัตุรัสทรอคคาเดโร่
นำท่านถ่ายรูปคู่กับพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ Louvre Museum พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงและยังมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในอดีตที่นี่เคยเป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์กาเปเซียง ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นที่จัดแสดงผลงานกว่า 35,000 ชิ้น ในพื้นที่กว่า 60,600 ตารางเมตร และมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากถึง 9.7 ล้านคนต่อปี และที่นี่ยังเป็นที่จัดแสดงของภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ภาพโมนาลิซา (Monalisa) ของเลโอนาร์โด ดาวินชี ศิลปินผู้มีชื่อเสียงชาวอิตาลี อีกด้วย จากนั้นนำท่านเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลกอย่าง ลา ซามาริแตง La Samaritaine ที่ก่อตั้งในปี 1870 โดย Ernest Cognacq และ Marie-Louise Jaÿ โดยสถาปนิกผู้ออกแบบคือ Frantz Jourdain โดยเป็นอาคารเก่าแก่คลาสสิกที่ถูกขึ้นทะเบียน Monument Historique ให้เป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1990 พบกับความหรูหร่าโดดเด่นทั้งภายนอก และ ภายในอาคารของห้างด้วยศิลปะหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ภาพวาดฝาผนัง , แผงประดับอาคารที่แสนวิจิตร มีเสน่ห์เฉพาะตัว มีการผสมผสานระหว่างศิลปะอาร์ตนูโว (Art Nouveau) กับอาร์ตเดโค (Art Déco) ได้อย่างลงตัว และภายในอาคารยังมีโครงสร้างเหล็กอันมีเอกลักษณ์ที่ถอดแบบลักษณะมาจากหอไอเฟล ซึ่งห้างได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา และกลายเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ ที่เน้นย้ำถึงเสน่ห์ของปารีส มีร้านค้าระดับพรีเมียม อาหาร และงานศิลปะ รวมแล้วกว่า 600 แบรนด์ มีนิทรรศการที่จะสลับหมุนเวียนให้ได้ชมตลอด
ปารีส – มงมาร์ต - แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (ฝรั่งเศส) – บรัสเซลส์ (เบลเยี่ยม)
นำท่านเดินทางสู่ย่านมงมาร์ต Montmartre ย่านศิลปินมากว่า 200 ปี สัมผัสกับมนต์เสน่ห์และกลิ่นอายของวันวานที่ศิลปะในฝรั่งเศสรุ่งเรืองถึงขีดสุด ชมวิวสวยของนครปารีสจากด้านหน้าบันไดของวิหารสเกรเกอร์ (Basilica of Sacre Coeur) วิหารสีขาวที่เป็นสัญญาลักษณ์อันโดดเด่นของปารีส แล้วเชิญสำรวจร้านกาแฟ หรือชมเหล่าศิลปินที่วาดรูปอยู่ใกล้ๆ จากนั้นพาท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยนักชอปปิงจากทั่วทุกมุมโลกในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุง ปารีสที่แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ Galleries Lafayette หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดอยู่ใจกลางกรุงปารีส โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
บรัสเซลส์ (เบลเยี่ยม) - อัมสเตอร์ดัม - หมู่บ้านกังหันลมซานสคันส์ - ล่องเรือหลังคากระจก - สถาบันสอนการเจียระไนเพชร - จัตุรัสดัมสแควร์ (เนเธอร์แลนด์)
นำท่านเดินทางสู่กรุงอัมสเตอดัม Amsterdam เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ เมืองแห่งแสงสี และอิสรเสรีภาพ ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) นำท่านผ่านชมเมืองที่มากมายไปด้วยพิพิธภัณฑ์ระดับโลกต่างๆ มากมาย จากนั้นเดินทางสู่ หมู่บ้านกังหันลมซานสคันส์ Zaanse Schans ให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับกังหันลม สัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาวดัตช์ และเรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กของประเทศและชมการสาธิตวิธีการผลิตรองเท้าไม้ของชาวดัตช์ที่ใช้ใส่ในชีวิตประจำวันในงานอาชีพต่างๆพร้อมเชิญเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก
อัมสเตอร์ดัม - หมู่บ้านกีธูร์น – ล่องเรือชมหมู่บ้านกีธูร์น - โรมอนด์เอ๊าท์เล็ต (เนเธอร์แลนด์) - ดุสเซลดอร์ฟ (เยอรมัน)
นำเดินทางโดยรถโค้ชสู่ หมู่บ้านกีธูร์น Giethoorn Village หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมงเป็นหมู่บ้านที่อาศัยการสัญจรทางน้ำเพียงอย่างเดียว จนได้ฉายาว่าเป็น “หมู่บ้านไร้ถนน” มีผู้คนอาศัยเพียงแค่ 2,600 กว่าคนแต่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนนับล้านคน นำท่านดื่มด่ำกับการล่องเรือผ่านลำคลองน้ำใส ต้นไม้ใบหญ้า และอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นดั่งสวรรค์สำหรับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์อย่างแท้จริง
นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนเข้าสู่เขตประเทศเยอรมัน โดยเดินทางเข้าสู่เมืองดุสเซลดอร์ฟ Dusseldorf (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศเยอรมัน และยังเป็นเมืองการค้าและธุรกิจรวมถึงยังเป็นเมืองหลวงในเขตนอร์ทไรน์-เวสท์ฟาเลีย ทอดตัวอยู่ริมแม่น้ำไรน์
ดุสเซลดอร์ฟ - โคโลญ - มหาวิหารโคโลญ - แฟรงก์เฟิร์ต - จตุรัสโรเมอร์ (เยอรมัน)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโลญ Cologne เมืองสำคัญริมแม่น้ำไรน์และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศเยอรมนี ศูนย์กลางทางการค้า งานศิลปะ และอุตสาหกรรม ทั้งยังเป็นแหล่งผลิตน้ำหอมออดิโคโลญ 4711 อันลือชื่อ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) นำเที่ยวชมตัวเมืองโคโลญ เมืองเก่าสมัยโรมันเรืองอำนาจ ถ่ายรูปกับมหาวิหารโคโลญ Cologne Cathedral โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1248 แต่มีปัญหาให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไปบ้าง จึงต้องใช้เวลากว่าหกร้อยปีจึงสร้างเสร็จสมบูรณ์ และ สร้างเสร็จในปี ค.ศ.41880 มหาวิหารโคโลญเป็นศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นวิหารที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลกในสมัยนั้น ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิก เป็นหอคอยแฝดสูง 157 เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร สร้างเพื่ออุทิศให้นักบุญปีเตอร์ และพระแม่มารี
แฟรงค์เฟิร์ต (เยอรมัน) - สตราสบูร์ก - กอลมาร์ (ฝรั่งเศส) - ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์)
นำท่านเดินทางเข้าสู่เขตประเทศฝรั่งเศสอีกครั้งที่เมืองสตราสบูร์ก Strasbourg ประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส Alsace ที่มี 2 วัฒนธรรม คือฝรั่งเศสและเยอรมนี เนื่องจากผลัดกันอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) สตราสบูร์ก เป็นเมืองใหญ่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่นชม นำท่านชมย่านริมน้ำฝรั่งเศสน้อย หรือ La Petite France หรือ Little France เป็นย่านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ที่เกาะใหญ่ กร็องดีล Grande Île บนถนน Rue des Moulins พื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำอิล River III ทั้งสี่ด้าน นับว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเมืองสตราสบูร์กที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เป็นหนึ่งในจุดสำคัญที่สุดของเมืองนี้ ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมบ้านเรือนริมน้ำต่างๆ อีกทั้งยังได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO
จากนั้นนำท่านข้ามพรมแดนเข้าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เดินทางเข้าสู่ เมืองซูริค Zurich เมืองขนาดใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์และเป็นเมืองหลวงของรัฐซูริคและยังเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญของประเทศและของทวีปยุโรปและเป็นที่ตั้งของสนามบินและสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุด การจราจรหนาแน่นที่สุดในประเทศ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
ซูริค - ซุก - ลูเซิร์น - ยอดเขาทิตลิส - สนามบินซูริค (สวิตเซอร์แลนด์)
นำท่านเดินทางสู่เมืองซุก Zug เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก Clock Tower แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมืองซุก นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น Lucerne เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) นำท่านชมสิงโตหินแกะสลัก Dying Lion of Lucerne ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปลChapel Bridge ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโก แลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
สนามบินดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) - สนามบินสุวรรณภูมิ