Support
รวมโปรล่องเรือเจ้าพระยา Dinner Cruise
094-9716464
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

ข้ามคืนบนเขา ดูดาวบนพิลาตุส ออสเตรีย - เยอรมนี - สวิตเซอร์แลนด์ 7 วัน 4 คืน โดยสายการบิน EMIRATES (EK) -

  • ทัวร์ : Austria [ ออสเตรีย ]
  • เที่ยวเมือง : Munich (มิวนิค) Zurich (ซูริค) Lucerne (ลูเซิร์น) Vienna (เวียนนา) Switzerland (สวิตเซอร์แลนด์) Germany (เยอรมนี) Austria-Germany-Switzerland (ออสเตรีย-เยอรมนี-สวิตเซอร์แลนด์) Austria (ออสเตรีย) Zug (ซูก)
  • สายการบิน : Emirates
  • รหัสโปรแกรม : T9903
  • Code : GO3VIE-EK012
  • ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
  • ระยะเวลา : 7 วัน 4 คืน

ราคาเริ่มต้นที่ ฿71,900

ไฮไลท์ทัวร์ Highlight

เวียนนา - ถนนคาร์ทเนอร์ - ฮัลสตัท - โรเซนไฮม์ - มิวนิค - ป่าดำ - วิลินเก้น - ยอดเขาพิลาตุส– ซุก - ซูริค - ลูเซิร์น - อูล์ม - ซิกมาริงเก้น

ระยะเวลาเดินทาง

จำนวนที่นั่ง

ราคาเริ่มต้น

สถานะ

04 ธ.ค. - 10 ธ.ค.

35

69,900

29 ธ.ค. - 04 ม.ค.

35

71,900

รายละเอียดโปรแกรม
วันที่ 1

กรุงเทพฯ

23.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
วันที่ 2

ดูไบ – เวียนนา - ถนนคาร์ทเนอร์

02.00น. ออกเดินทางสู่กรุงดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ (Emirates) เที่ยวบินที่ EK371
06.00 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
08.55 น. ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา ด้วยเที่ยวบิน EK127
12.55 น. เดินทางถึง สนามบินเวทชาท กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมงและจะปรับเป็น 6 ชั่วโมงเมื่อ 29 ตุลาคม 2566 ) หลังจากนั้นผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง เดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย นำท่านนั่งรถชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955, ผ่านพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากนั้นนำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ (St. Stephen’s Cathedral) เป็นทั้งผลงานศิลปะเชิงศาสนา และเป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของออสเตรีย โดยมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่นสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1147 เพื่ออุทิศแด่นักบุญสตีเฟ่น โดยสร้างตามสถาปัตยกรรมยุโรปแบบโกธิค (Gothic) และ โรมานเนสก์ (Romanesque) ในอดีตมหาวิหารแห่งนี้ยังเคยเป็นที่พำนักของอาร์ชบิชอปแห่งกรุงเวียนนา ตัวโบสถ์มีขนาดใหญ่ ทรงสูง มีหอคอยที่โดดเด่นสูง 137 เมตร มีหลังคาที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยหลังคามุงกระเบื้องเคลือบกว่า 230,000 แผ่น และมีโมเสคเรียงเป็นภาพสะดุดตารูปนกอินทรีสองหัวอันสวยงามโดดเด่น จากนั้นเชิญช๊อปปิ้งสินค้าในย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Kartnerstrasse) ใจกลางกรุงเวียนนา เชิญช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นนานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton , Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯลฯ และ รวมไปถึงสินค้าของฝาก เช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท โดยเฉพาะร้านเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ (Swarovski Crystal Worlds Store Vienna) สินค้าที่มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นอาคารขนาดใหญ่ สูง 3 ชั้น มีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกจากศิลปินที่มีชื่อระดับโลก เมื่อเข้าชมภายในอาคารจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มีจำหน่ายทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องประดับต่างๆ ,นาฬิกา หรือ ของใช้ ที่มีการออกแบบตกแต่งด้วยสวาร็อฟสกี้อย่างหรูหราและลงตัว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก RAINERS หรือเทียบเท่า
วันที่ 3

เวียนนา – ฮัลสตัท - โรเซนไฮม์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

ออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย อิสระให้ท่านได้เดินเล่นฮัลสตัท หมู่บ้านที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึง่ในยุโรปตามอัธยาศัย โดย ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองโรเซนไฮม์ (Rosenheim) เมืองใหญ่ในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี เป็นเมืองอิสระที่ตั้งอยู่ในใจกลางเขตโรเซนไฮม์ ได้รับการขนานนามว่า "ไข่มุกในหุบเขาลุ่มแม่น้ำอินน์" และเป็นประตูประตูสู่ทะเลสาบเคียมเซ (Chiemsee) ประเทศเยอรมนี และด้วยความที่โรเซนไฮม์นั้นเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญระหว่างมิวนิก ซาลส์บวร์ก และอินส์บรูค ทำให้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองนี้ได้ตกเป็นเป้าหมายสำคัญในการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร นำท่านชมจตุรัสแมกซ์โจเซฟพลาทซ์ (Max-Josefs-Platz) จตุรัสเก่าของเมืองซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งของตลาดกลางการค้าโรเซนไฮม์ต่อมาได้พัฒนาเป็นจตุรัสที่ใหญ่ที่สุดของเมืองโรเซนไฮม์ โดยบ้านเมืองรอบๆจตุรัสนั้นจะตกแต่งสไตล์ Inn-Salzach region ที่เป็นสถาปัตยกรรมที่เน้นความโค้งของเพดาน หน้าต่างและหลังคา อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN EXPRESS ROSENHEIM หรือเทียบเท่า
วันที่ 4

โรเซนไฮม์ - มิวนิค - อูล์ม

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. อิสระท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม และของฝากตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอูล์ม (Ulm) ตั้งอยู่ริมชายฝั่งแม่น้ำดานูบที่อยู่ทางใต้ของประเทศ เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไปท่องเที่ยว เพราะนอกจากสวยงามแล้วเมืองแห่งนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ.850 แล้ว ยังเป็นบ้านเกิดของนักฟิสิกส์ชื่อก้องโลก อย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์อีกด้วย นำท่านชม วิหารอูล์ม(Ulm Munster) ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเมือง สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ขึ้นชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่สูงที่สุดในโลกโดยมีความสูงที่ 161.53 เมตร เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ซึ่งสูงมาก ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนของเมืองก็จะเห็นยอดโบสถ์ตั้งเด่น สง่า อย่างชัดเจน

ากนั้นนำท่านชมจัตุรัสเมืองเก่า Marktplatz คือศาลากลางโกธิคที่สวยงาม (Rathaus) ที่มีภาพเฟรสโกตั้งแต่ปีพศ. 1540 เคยเป็นห้างสรรพสินค้าในยุคกลางและซเป็นที่ตั้งของร้านค้าและช่างฝีมือต่างๆ ที่หลากหลายก่อนที่จะกลายเป็นศาลากลางจังหวัดซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน สิ่งที่น่าสนใจอื่นๆของอาคาร
ค่ำ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองวิลลินเก้น
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก SELIGWEILER HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 5

อูล์ม – ซิกมาริงเก้น - ป่าดำ – ขึ้นเขาพิลาตุส - พักโรงแรมบนเขาพิลาตุส

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซิกมาริงเก้น (Sigmaringen) เมืองในรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค ทางภาคใต้ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ในหุบเขาขนาดเล็กซึ่งมีแม่น้ำดานูบไหลผ่าน นำท่านถ่ายรูปคู่กับ ปราสาทซิกมาริงเก้น (Sigmaringen Castle) ตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางเมือง สัญลักษณ์ของเมืองซิกมาริงเก้น โดยปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเยอรมนี เป็นอนุสาวรีย์ทางวัฒนธรรมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองทิทิเซ่ (Titisee) เมืองริมทะเลสาปที่ตั้งอยู่ในเขตป่าดำ (Black Forest) ให้ท่านได้อิสระชมความงามของบ้านเรือน ชมทัศนียภาพของทะเลสาบที่มีฉากหลังเป็นป่าสนอยู่บนภูเขา ที่เรียกว่า แบล็กฟอเรสต์ สถานที่อันเป็นต้นกำเนิดนาฬิกากุ๊กกู ให้ท่านได้มีโอกาสชิมเค้กแบล็กฟอเรสอันขึ้นชื่อ ณ เมืองต้นตำรับตามอัธยาศัย และเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน)
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรหมแดนเยอรมนี – สวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นสู่ ยอดเขาพิลาทุส (Pilatus) ฉายาเจ้ามังกรแดง ให้ท่านได้ นั่งรถไฟไต่เขาฟันเฟืองที่ชันที่สุดในโลก (45องศา) (World Steepest Cog Wheel Railway) ซึ่งเขาพิลาทุสได้ตั้งอยู่ตอนกลางของสวิตเซอร์แลนด์ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,132 เมตร ซึ่งรถไฟไต่เขานี้ เปิดมาตั้งแต่ปี 1889 โดยใช้หัวรถจักรไอน้ำในการขับเคลื่อน ส่วนในปัจจุบันใช้เป็นระบบไฟฟ้า วิวจากยอดเขาท่านจะได้ชมความงามของเทือกเขาที่สุดสวยงาม ได้ชมวิวทะเลสาบลูเซิร์น (Luzern Lake) จากมุมที่สวยที่สุดจากบนยอดเขา สำหรับยอดเขาพิลาตุสนั้นเป็นหนึ่งในยอดเขาที่มีทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดในเขตเทือกเขาแอลป์ โดยบนยอดเขา ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพแบบพาโนรามาของเทือกเขาแอลป์ ทะเลสาบลูเซิร์น และเมืองต่างๆโดยรอบ ในวันที่อากาศแจ่มใส จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์แบบพาโนรามาของยอดเขาอัลไพน์ได้กว่า 73 ยอดเลยทีเดียว โดยยอดเขาแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขามังกรแห่งสวิส ซึ่งมาจากตำนานใน ศตวรรษที่ 14-15 ที่มีชาวนาคนหนึ่งได้เห็นมังกรบินมาจากยอดเขาริกิและมังกรได้ปล่อยหินมาก้อนหนึ่งบนยอดเขาพิลาตุส และเชื่อกันว่าหินก้อนนี้สามารถรักษาโรคต่างๆได้ และคำว่าพิลาตุสนั้นมาจาก ปอนติอุส พิลาทุส (Pontius Pilatus) ผู้สั่งให้ตรึงพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขนในสมัยต้นคริสต์ศักราช โดยนอกจากทัศนียภาพอันงดงามแล้วนั้นบนยอดเขาพิลาตุส ยังมีกิจกรรมมากมายหลายๆอย่างให้ทำ ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามแต่ฤดูกาล อาทิ เช่น การเล่น Tabogan Run , การเล่นสกี , สโนว์บอร์ด หรือการขี้จักรยาน (ค่ากิจกรรมบางอย่างต้องจ่ายเพิ่ม)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
ที่พัก *** พิเศษ การันตีที่พักบนยอดเขาพิลาตุสทุกคณะ*** สำหรับคณะที่ออกเดินทาง 20 พ.ย.และ 4 ธ.ค. จะเข้าพักที่โรงแรม Bellevue และสำหรับคณะที่ออกเดินทาง 30 พ.ย. และ 29 ธ.ค. จะเข้าพักที่โรงแรม Pilatus Kulm **
วันที่ 6

เขาพิลาตุส – ล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น - ลูเซิร์น – ซุก - สนามบิน- สนามบิน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางลงจากเขามังกรแดงนี้ด้วยการนั่งกระเช้า cable car ลงสู่ด้านล่างของยอดเขา และหลังจากนั้นนำท่านล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น (Lucerne Lake Cruise) ระหว่างทางท่านจะได้ชมความงดงามของทะเลสาบลูเซิร์นรวมถึงบ้านเมืองตั้งเรียงรายอันสวยงามตลอดสองข้างทางนำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโก แลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่นRolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมืองซุก นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนท์ออสวอร์ล (St Oswald's church) โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ชาวสวิสยังมีความเชื่ออีกว่า ถ้าใครมีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ หรือเจ็บป่วย ถ้าได้มาขอพรกับโบสถ์แห่งนี้ จะช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว (กรณีถ้ามีพิธีภายในโบสถ์ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม) นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ และไม่ควรพลาดเค้กเชอร์รี่ Zug Cherry Cake (Zuger Kirschtorte) จากร้าน Speck เค้กที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีขายมากว่าร้อยปี มีบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมายต่างเคยลิ้มลองเค้กจากร้านนี้ เช่น Charlie Chaplin, Winston Churchill หรือสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส โดยเมืองซุกนี้มีการทำฟาร์มผลไม้ ทั้งสตอเบอร์รี่, บูลเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่,ลูกแพร์ ฯลฯ รวมทั้ง เชอร์รี่ ที่มีปลูกมากกว่า 40,000 ต้น

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินซูริค เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
22.15 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินเอมิเรตส์ (Emirates) เที่ยวบินที่ EK086 ** คณะที่เดินทางตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. เป็นต้นไป ออกเดินทางเวลา 21.50 น. // เดินทางถึงสนามบินดูไบ เวลา 07.05 น. **
วันที่ 7

ดูไบ - กรุงเทพ

06.25 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
08.55 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรตส์ (Emirates) เที่ยวบินที่ EK370
18.05 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
มื้ออาหาร
วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
รายละเอียดและเงื่อนไข

1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท + ค่าวีซ่า 5,900 บาท (ค่ามัดจำ + ค่าวีซ่า ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้)
***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
2. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า
ภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
3. เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
4. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
5. การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
6. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

  1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
  2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
  3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
  4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
  5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
  6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
  7. ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ วงเงินสูงสุด 3,000,000 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด ความคุ้มครองเป็นตามกรมธรรม์ประกันภัย)
  8. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง

5.ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศเยอรมันรวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,900.-บาท)

6.ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น (10 ยูโร/ต่อท่าน)

7.ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (21 ยูโร/ต่อท่าน)