กรุงเทพฯ
เมลเบิร์น - ชมมหานครเมลเบิร์น – เกาะฟิลลิป – พิเศษมื้อเย็น เมนูกุ้งล๊อบส์เตอร์ ท่านละ 1 ตัว พร้อมไวน์ชั้นเยี่ยม
นำท่านชมอาคารรัฐสภาเมลเบิร์น(Melbourne Parliament House)อาคารที่ก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรป ชมสวนฟิตซรอย (Fitzroy Gardens) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ และเป็นที่ตั้งของกระท่อมกัปตันคุ้ก (Cook's Cottage) (ไม่รวมค่าเข้าชมในกระท่อม) บ้านพักของนักสำรวจชาวอังกฤษคนสำคัญของโลก ผู้ค้นพบทวีปออสเตรเลียและซีกขั้วโลกใต้ กระท่อมนี้ได้ถูกย้ายมาเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองนครเมลเบิร์นในวาระครบรอบ 100 ปี อิสระช้อปปิ้งอย่างจุใจในย่านไชน่า ทาวน์ มีร้านค้ามากมายบนถนน Swanston และยังมีอาคารบ้านเก่าสร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 ด้วยบรรยกาศแบบชาวจีนและชาวเอเซีย รวมไปถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อาทิ ห้างเดวิด โจนส์ (David Jones) ห้างมายเออร์ (Myer) ในย่านถนน Swanston Street และ Elizabeth Street ที่เต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าแฟชั่นหลากหลาย
เมลเบิร์น – เกรทโอเชี่ยนโร้ด – พอร์ทแคมเบล – สะพานลอนดอน
นำท่านเดินทางจากเมลเบิร์นตามเส้นทางสาย “เกรทโอเชี่ยนโร้ด” (Great Ocean Road ) ที่สวยงามและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวที่จะพลาดไม่ได้เลยหากมาถึงรัฐวิกตอเรีย ผ่านทางเมืองจีลองที่เป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมของรัฐวิกตอเรีย จนเข้าสู่เขตเกรทโอเชี่ยนโร้ด ให้ท่านได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของชายฝั่งมหาสมุทรและหาดทรายต่าง ๆ ตามเส้นทางที่งดงามแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย โดยผ่าน เมือง Anglesea และเมือง Lorne ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติพร้อมทะเลสวยงามและสงบ ก่อนเข้าสู่ Apollo Bay ที่เป็นอีกเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่สวยงามอีกเมืองและมีน้ำทะเลสีน้ำเงินตัดกับป่าอันเขียวขจีทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์สวยงาม นอกจากนี้ระหว่างทางผ่านชม โคอาล่าที่อยู่ตามต้นยูคาลิปตัสตามธรรมชาติ เข้าสู่พอร์ตแคมเบลล์ (Port Campbell National Park) สัมผัสกับทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดในโลก คุณจะต้องตะลึงกับภาพทิวทัศน์อันงดงามของมหาสมุทรแปซิฟิค และลักษณะภูมิประเทศที่ไม่เหมือนที่ใด ๆ ในโลก นำท่านชมปรากฏการณ์ธรรมชาติของหิน Twelve Apostles ซึ่งตั้งชื่อตาม 12 นักบุญ หรือสิบสองสาวกศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์ ซึ่งถือว่าเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ไม่ควรพลาด
***สำหรับท่านที่ต้องการนั่งเฮลิคอปเตอร์ เพื่อชมความงามอันยิ่งใหญ่อลังการจากมุมสูง ราคาเริ่มต้นประมาณ 165 AUD. ใช้เวลา 16 นาที กรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์***
เมลเบิร์น – รถไฟจักรไอน้ำโบราณ - หุบเขายาร์ร่า - สนามบินเมลเบิร์น - เดินทางด้วยเที่ยวบินภายในสู่ซิดนีย์ - ซิดนีย์
นำท่านสู่สถานีรถไฟจักรไอน้ำโบราณ (Puffing Billy Steam Train) ซึ่งแต่เดิมเคยใช้เป็นเส้นทางในการเดินทางระหว่างเมืองและขนส่งสินค้าเปิดให้บริการในปี ค.ศ.1900 เป็นรถไฟสายเก่าที่วิ่งระยะสั้น ๆ ปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงนำมาใช้ในการท่องเที่ยวชมป่า นำท่านนั่งรถไฟจักรไอน้ำโบราณ เพื่อชมทัศนียภาพอันสวยงามตามแนวเขาตลอดเส้นทางวิ่งของรถไฟและท่านยังสามารถนั่งห้อยขาผ่อนคลายอารมณ์พร้อมชมทัศนียภาพตลอดทางที่เต็มไปด้วยหุบเขาและป่าสูงที่ยังคงความสมบูรณ์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หุบเขายาร์ร่า (Yarra Valley) แหล่งผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม นำท่านชมไร่ไวน์และทดลองชิมไวน์ขาว และไวน์แดง ที่ผลิตจากองุ่นชั้นเลิศของออสเตรเลีย
ชมมหานครซิดนีย์ – ตึกควีนวิคตอเรีย – ล่องเรืออ่าวซิดนี่ย์พร้อมอาหารเย็นระหว่างล่องเรือ – โรงละครโอเปร่าเฮ้าส์
นำท่านชมนครซิดนีย์ โดยผ่านชมหาดบอนได (Bondi Beach) หาดทรายที่หนุ่มสาวชาวออสซี่นิยมมาพักผ่อนวันหยุดหรือยามเย็นในบรรยากาศท่ามกลางสายลม แสงแดด อันสดชื่น ที่นิยมเล่นกระดานโต้คลื่น หาดทรายแห่งนี้ยังได้เป็นเส้นทางในการวิ่งมาราธอนและวอลเลย์บอลชายหาดในคราวที่จัดกีฬาโอลิมปิค ปี 2000 ผ่านชมบ้านของเศรษฐีบนเนินเขา แวะจุดชมวิวบนหน้าผาเพื่อชมทัศนียภาพอันสวยงามของอ่าวซิดนีย์ และมหาสมุทรแปซิฟิคที่สวยงาม แวะที่เดอะแก๊ป (The Gap) จุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งที่ท่านจะได้ชมท้องทะเลอันงดงามของมหาสมุทรแปซิฟิก และความงามของปากอ่าวทางเข้าซิดนีย์ในทางเรือ ในบริเวณนี้ยังเคยเป็นจุดวางปืนใหญ่ยิงต่อต้านข้าศึกที่เข้ามาทางเรือในยามสงครามชมหินของมิสซิสแม็คควอรี่ ม้านั่งหินตัวโปรดของภริยาของผู้สำเร็จราชการคนแรกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นม้าหินทรายอยู่ปลายสุดของสวนสาธารณะ ด้านหน้าเป็นอ่าวซิดนีย์ที่สวยงาม นอกจากนี้ด้านบนสวนสาธารณะยังเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามที่ท่านจะถ่ายรูปให้เห็นโรงละครโอเปร่าเฮ้าส์และสะพานฮาร์เบอร์เป็นสัญลักษณ์ของนครซิดนีย์ นำท่านเดินทางสู่ตึกควีนวิคตอเรีย (Queen Victoria Building) หรือ QVB อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของเมืองซิดนีย์ เป็นอาคารเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี สร้างในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ออกแบบโดยจอร์จ มักเร (George McRae) สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1898 โดยเป็นอาคารสถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์ ปัจจุบันช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ขนาด 4 ชั้นลอย และ 2 ชั้นใต้ดิน มีความกว้างของตัวอาคาร 30 เมตร และความยาว 190 เมตร ตัวอาคารมีถนนล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน คือ George Street, Market Street, York Street และ Druitt Street มีคำกล่าวไว้ว่าหากจะเปรียบโอเปร่าเฮ้าส์ เป็นดังสาวงามประจำมหานคร ตึกควีนวิคตอเรียก็เปรียบเหมือนมงกุฎประดับอัญมณีล้ำค่าที่โดดเด่นเป็นศรีแห่งมหานครซิดนีย์แห่งนี้เช่นกัน อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าตามอัธยาศัย
ซิดนีย์ - อุทยานแห่งชาติบลูเม้าท์เท่นส์ – สวนสัตว์โคอาล่าปาร์ค - ซิดนีย์
นำท่านเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติบลูเม้าท์เท่นส์ (Blue Mountain National Park) ชมความงามสุดอลังการที่ธรรมชาติสร้างไว้มานานกว่าหลายร้อยล้านปี กับผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์เป็นที่อยู่ของนกนานาชนิด สัตว์ต่าง ๆ เทือกเขานี้ปกคลุมไปด้วยต้นกัม (Gum Tree) ต้นไม้ในตระกูลยูคาลิปตัสซึ่งมีใบสีเขียมเข้ม เมื่อเวลาแสงแดดส่องมาตกกระทบกับไอน้ำที่ปกคลุมไปทั่วเทือกเขา เวลามองดูจากระยะไกลๆ จะเห็นทิวเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นกัมกลายเป็นสีน้ำเงินตามหุบเขาอันกว้างใหญ่ จึงเป็นที่มาของชื่อ บลูเมาเทนส์ ผ่านเมืองเล็กๆกลางหุบเขาชื่อว่า Katoomba เพื่อชมเขาสามอนงค์ (Three sisters rock) เป็นแท่นหินขนาดใหญ่สามก้อนรูปทรงแปลกตา ที่เกิดจากการกัดเซาะจากฝนและลมพัด และได้มีเรื่องเล่าอันเป็นตำนานความรักอันแสนเศร้าของยักษ์สาวอะบอริจิ้นสามตนที่ถูกสาปให้เป็นหินสามก้อน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของหุบเขาสีน้ำเงินแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Scenic World เพื่อขึ้นกระเช้าและรถรางลงหุบเขา ที่จะทำให้ท่านได้ชมเขาสามอนงค์ได้สวยงามยิ่งขึ้นอีกมุม นำท่านขึ้นรถรางไฟฟ้า (Katoomba scenic railway) ที่ดัดแปลงมาจากรถขนถ่านหินในสมัยก่อนมีความชันถึง 45 องศา วิ่งผ่านทะลุหุบเขาอันสูงชันสู่หุบเขาด้านล่างอย่างตื่นเต้นและหวาดเสียว จากนั้นให้ท่านได้เดินชมธรรมชาติอันสวยงาม ป่าอันอุดมสมบูรณ์ ไปตามทางไม้ที่จัดไว้อย่างสวยงามใต้หุบเขา ชมป่าฝนและหุ่นจำลองการขุดถ่านหินในสมัยก่อน จากนั้นขึ้นกระเช้า Scenic cableway จากใต้หุบเขาสู่ด้านบนพร้อมชมความงดงามเบื้องล่างของหุบเขาสีน้ำเงิน และยังสามารถชมยอดเขาสามอนงค์อีกมุมที่สวยงามและแตกต่าง นำท่านเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติบลูเม้าท์เท่นส์ (Blue Mountain National Park) ชมความงามสุดอลังการที่ธรรมชาติสร้างไว้มานานกว่าหลายร้อยล้านปี กับผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์เป็นที่อยู่ของนกนานาชนิด สัตว์ต่าง ๆ เทือกเขานี้ปกคลุมไปด้วยต้นกัม (Gum Tree) ต้นไม้ในตระกูลยูคาลิปตัสซึ่งมีใบสีเขียมเข้ม เมื่อเวลาแสงแดดส่องมาตกกระทบกับไอน้ำที่ปกคลุมไปทั่วเทือกเขา เวลามองดูจากระยะไกลๆ จะเห็นทิวเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นกัมกลายเป็นสีน้ำเงินตามหุบเขาอันกว้างใหญ่ จึงเป็นที่มาของชื่อ บลูเมาเทนส์ ผ่านเมืองเล็กๆกลางหุบเขาชื่อว่า Katoomba เพื่อชมเขาสามอนงค์ (Three sisters rock) เป็นแท่นหินขนาดใหญ่สามก้อนรูปทรงแปลกตา ที่เกิดจากการกัดเซาะจากฝนและลมพัด และได้มีเรื่องเล่าอันเป็นตำนานความรักอันแสนเศร้าของยักษ์สาวอะบอริจิ้นสามตนที่ถูกสาปให้เป็นหินสามก้อน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของหุบเขาสีน้ำเงินแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Scenic World เพื่อขึ้นกระเช้าและรถรางลงหุบเขา ที่จะทำให้ท่านได้ชมเขาสามอนงค์ได้สวยงามยิ่งขึ้นอีกมุม นำท่านขึ้นรถรางไฟฟ้า (Katoomba scenic railway) ที่ดัดแปลงมาจากรถขนถ่านหินในสมัยก่อนมีความชันถึง 45 องศา วิ่งผ่านทะลุหุบเขาอันสูงชันสู่หุบเขาด้านล่างอย่างตื่นเต้นและหวาดเสียว จากนั้นให้ท่านได้เดินชมธรรมชาติอันสวยงาม ป่าอันอุดมสมบูรณ์ ไปตามทางไม้ที่จัดไว้อย่างสวยงามใต้หุบเขา ชมป่าฝนและหุ่นจำลองการขุดถ่านหินในสมัยก่อน จากนั้นขึ้นกระเช้า Scenic cableway จากใต้หุบเขาสู่ด้านบนพร้อมชมความงดงามเบื้องล่างของหุบเขาสีน้ำเงิน และยังสามารถชมยอดเขาสามอนงค์อีกมุมที่สวยงามและแตกต่าง
ซิดนีย์– กรุงเทพ
นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานนครซิดนีย์