กรุงเทพ ฯ
มิวนิค – จัตุรัสมาเรียนพลาสท์ – เบิร์ชเทสการ์เดน – ล่องเรือชมความสวยงามของทะเลสาบโคนิก - โรเซนไฮม์
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเบิร์ชเทสการ์เดน (Berchtesgaden) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 6 เมืองสวยเส้นทาง German Alpine Road นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบโคนิก (Konigssee Lake) หรือที่ถูกเรียกว่า "ทะเลสาบกษัตริย์" ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบที่มีความลึกที่สุดในเทือกเขาแอลป์ และเป็นทะเลสาบที่ได้ชื่อว่าน้ำใสที่สุดในเยอรมนี แหล่งกำเนิดมาจากการละลายของหิมะบนยอดเขา มีความยาวประมาณ 8 กิโลเมตร และมีความกว้างประมาณ 1.25 กิโลเมตร โดยทะเลสาบตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 602 เมตร ลึกเฉลี่ย 150 เมตร ส่วนที่ลึกที่สุดประมาณ 200 เมตร ปัจจุบันทะเลสาบโคนิก ได้รับการขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งฟยอร์ดที่มีความงดงามที่สุดในประเทศเยอรมนี และในเขตเทือกเขาแอลป์ หลังจากนั้นนำท่านล่องเรือชมความสวยงามของทะเลสาบโคนิก (Konigsee) ให้ท่านได้ชมรอบทะเลสาบที่มีสีเขียวมรกตตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าโดยมีเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลัง และที่พลาดไม่ได้คือการถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์บาโธโลมา (St. Bartoloma Church) โบสถ์ที่มีชื่อเสียงที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบโคนิก เป็นสัญลักษณ์สำคัญของทะเลสาบที่นักท่องเที่ยวต้องมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
โรเซนไฮม์ – เข้าชมพระราชวังแฮเรนเคียมเซ่ – พิพิธภัณฑ์คริสตัลสวารอฟสกี้ - อินส์บรูค
นำท่านเดินทางสู่ เกาะเคียมเซ (Chiemsee Island) อันเป็นที่ตั้งของพระราชวังแฮเรนเคียมเซ่พระราชวังที่ได้รับการขนานนามให้เป็น “พระราชวังแวร์ซายน์ แห่ง บาวาเรียน” โดยพระราชวังนี้ถูกสร้างโดยพระเจ้าลุควิคที่ 2 แห่งบาวาเรีย หรือเจ้าชายหงส์ขาว โดยมีต้นแบบมาจากพระราชวังแวร์ซายน์ในประเทศฝรั่งเศส ตัวพระราชวังโอบล้อมด้วยความร่มรื่น ของป่าไม้นานาพันธ์และเชื่อมด้วยคลองขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยสนามหญ้า, สวยสวยและน้ำพุ นำท่านเข้าชม พระราชวังแฮเรนเคียมเซ่ (Herrenchiemsee Palace) ภายในตกแต่งด้วยศิลปะอลังการจากช่างฝีมือในยุคนั้นที่ท่านจะได้เห็นจากห้องว่าราชการ, ห้องบรรทม, ห้องฉลองพระองค์ และที่ โดดเด่นที่สุดคือห้องกระจก (The Hall of Mirrors) ออกแบบในสไตล์เฟรนช์โรโคโค
นำท่านเดินทางสู่เมืองวัตเท่นส์ (Wattens) เข้าชม Swarovski Kristallwelten ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์คริสตัลสวารอฟสกี้สินค้าที่มีชื่อเสียงของประเทศออสเตรีย โดยตัวอาคารนั้นมีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกจากศิลปินที่มีชื่อระดับโลก และมีจำหน่ายทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องประดับต่างๆ ,นาฬิกา หรือ ของใช้ ที่มีการออกแบบตกแต่งด้วยสวาร็อฟสกี้อย่างหรูหราและลงตัว ให้ท่านได้เพลินเพลินกับการชมคอลเล็กชั่นต่าง ๆ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน และเลือกซื้อคริสตัลกลับไปเป็นของฝากในราคาโรงงาน นำท่านออกเดินทางสู่เมืองอินส์บรูค (Innsbruck) เป็นเมืองหลวงของแคว้นทีโรล เป็นเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน ซึ่งคำว่าอินส์บรูคนั้น แปลว่า สะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะแคบๆแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ นำท่านชม หลังคาทองคำ (Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรูค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล
อินส์บรูค – ยอดเขาซุกสปิตเซ่ – หมู่บ้านโอเบอร์อัมเมอร์เกา - ฟุสเซ่น
นำท่านเดินทางขึ้นสู่ ยอดเขาซุกสปิตเซ่ ภูเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน นำท่านเดินทางขึ้นสู่ ยอดเขาซุกสปิตเซ่ ภูเขาที่สูงที่สุดในเยอรมันโดยกระเช้าเคเบิลคาร์เพื่อไต่ระดับความสูงสู่ระดับความสูง 3,000 เมตร ให้ ให้ท่านชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามตลอด2ข้างทาง จนถึงลานหิมะบนความสูงระดับ 2,000เมตร มีเวลาท่านเดินเล่นถ่ายรูปและชื่นชมความสวยงามของเทือกเขาแอลป์และบนยอดเขาซุกสปิตเซ่นั้นเป็นอีกหนึ่งพรมแดนทางธรรมชาติของเยอรมันและออสเตรีย
ฟุสเซ่น - เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ - ป่าดำ - ไฟร์บูร์ก
นำท่านสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย จากนั้นเดินทางขึ้นปราสาทเพื่อเข้าชมความสวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง *** หากคณะไม่สามารถเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินหน้างานท่านละ 13 ยูโร และถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นการทดแทน ***
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองไฟร์บูร์ก (Freiburg)
ไฟร์บูร์ก - ซุก - นั่งรถไฟไต่เขาริกิ – ล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น - ลูเซิร์น - ซูริค
จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมืองซุก นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนท์ออสวอร์ล (St Oswald's church) โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ชาวสวิสยังมีความเชื่ออีกว่า ถ้าใครมีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ หรือเจ็บป่วย ถ้าได้มาขอพรกับโบสถ์แห่งนี้ จะช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว (กรณีถ้ามีพิธีภายในโบสถ์ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม) นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ และไม่ควรพลาดเค้กเชอร์รี่ Zug Cherry Cake (Zuger Kirschtorte) จากร้าน Speck เค้กที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีขายมากว่าร้อยปี มีบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมายต่างเคยลิ้มลองเค้กจากร้านนี้ เช่น Charlie Chaplin, Winston Churchill หรือสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส โดยเมืองซุกนี้มีการทำฟาร์มผลไม้ ทั้งสตอเบอร์รี่, บูลเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่,ลูกแพร์ ฯลฯ รวมทั้ง เชอร์รี่ ที่มีปลูกมากกว่า 40,000 ต้น จากนั้นนำท่าน นั่งรถไฟไต่เขาริกิ (Rigi) ที่ถือได้ว่าเป็นรถไฟไต่เขาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ที่เรียกได้ว่าเป็นรถไฟสายแรกของสวิตเซอร์แลนด์เลยก็ว่าได้ และยังเป็นอันดับ 2 รองจากยอดเขาวอชิงตัน ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในสหรัฐอเมริกา มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,798 เมตร สู่ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm) มีที่มาจากคำว่า Mons Regina แปลได้ว่า "ราชินิแห่งขุนเขา" (Queen of the mountains) เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา ชมวิวแบบพาโนรามาโอบล้อมด้วยธรรมชาติของทะเลสาบลูเซิร์น และซุกแบบไม่มีเมฆและยอดเขาอื่นๆมาบดบังทัศนียภาพอีกด้วย
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค
ซูริค - สไตน์ อัม ไรน์ - จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ - สนามบิน
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองสไตน์ อัม ไรน์ (Stein am Rhien) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคอนสแตนซ์ (Lake Constance) กับทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) ในเมืองเต็มไปด้วยภาพวาดสีเฟรสโกลวดลวยสวยงามตกแต่งอยู่ตามผนังกำแพง นำท่านเข้าสู่จตุรัส Rathausplatz จุดไฮไลค์ของเมืองที่เป็นที่ตั้งของศาลากลาง โดดเด่นด้วยถนนแคบๆ อาคารบ้านเรือนสีสันสดใส และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ล้อมรอบด้วยอาคารครึ่งไม้ที่สวยงาม นำท่านชมเมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ให้ท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ นำท่านสู่ จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) เป็นจัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
กรุงเทพ