กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
สนามบินอินชอน – เกาะนามิ – สะพานโซยางกัง - ถนนสายศิลปะคาเฟ่โกบงซาน
เอเวอร์แลนด์ - ศูนย์เครื่องสำอางแบรนด์ดังเกาหลี - ย่านชองดัมดง -ถนนฮงแด
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “เอเวอร์แลนด์” (Everland) สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ มีขนาดประมาณ 1 ล้านตารางเมตร ข้างในมีทั้งสวนสัตว์ สวนน้ำ สวนดอกไม้ รีสอร์ท ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆมากมาย ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับโซนต่างๆของสวนสนุกที่ประกอบไปด้วย 5 โซน ดังต่อไปนี้ 1. Global Fair เป็นโซนตรงบริเวณทางเข้า ประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกมากมาย รวมถึงการให้บริการต่างๆ เช่น การเช่ารถเข็นเด็กเป็นต้น ไฮไลค์ของโซนนี้จะอยู่ที่ Magic Tree ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนจุดแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยวให้มาถ่ายรูปกัน 2. Zoo Topia โซนสวนสัตว์ของเอเวอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี มีสัตว์มากกว่า 2,000 ตัว จาก 200 กว่าสายพันธ์ ท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับสัตว์ชนิดต่างๆ เช่น แพนด้า หมีขั้วโลก เพนกวิน เสือ แพะ แกะ และอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงมีการจัดแสดงโชว์ของสัตว์อีกด้วย 3. European Adventure เป็นโซนที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมตามสไตล์ยุโรป มีสวนดอกไม้ที่สร้างตามสวนดอกไม้ที่ยุโรปด้วย โดยไฮไลค์ของโซนนี้จะอยู่ที่ รถไฟเหาะที-เอ็กซ์เพรส (T-Express) ซึ่งเป็นรถไฟเหาะไม้แห่งแรกของเกาหลี
4. Magic Land โซนนี้จะตกแต่งแบบธีมแฟนตาซี ตามแบบฉบับนิทานในวัยเด็ก มีหมู่บ้านนิทานอีสป (Aesop’s Village) ที่เต็มไปด้วยตัวละครต่างๆจากนิทานอีสปที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กๆ 5. American Adventure เป็นโซนที่ตกแต่งตามสไตล์อเมริกันทั้งป้ายบอกทางหรือสัญญาณไฟ เป็นโซนที่นำเสนอธีมจากประวัติศาสตร์อเมริกันที่ เช่น โรดีโอ (Rodeo), ธีมเมืองร็อกวิลล์ (Rockville) และ ดับเบิ้ลร็อคสปิน (Double Rock Spin) ที่นำเสนอรูปแบบทางสถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตคนอเมริกันในช่วงยุค ค.ศ 1950 สวนสนุกแห่งนี้ดำเนินการโดยบริษัท Samsung C&T Corporation บริษัทในเครือของ Samsung เริ่มเปิดมาตั้งแต่ปี 1972 ในชื่อ ยงอิน แนชเชอรัล ฟาร์ม (Yongin Natural Farm) ก่อนจะมาเปลี่ยนชื่อเป็น เอเวอร์แลนด์แบบในปัจจุบันในปี 1996 อิสระให้ท่านได้เดินเล่นในสวนสนุกแห่งนี้ตามอัธยาศัย
ศูนย์โสมรัฐบาลเกาหลี – ศูนย์สมุนไพรน้ำมันสนแดง – พิพิธภัณฑ์สาหร่าย – พระราชวังชางด๊อกกุง – คลองชองเกชอน – แหล่งช้อปปิ้งปลอดสินค้าภาษี - เมียงดง
นำท่านเดินทางสู่ศูนย์โสมรัฐบาลเกาหลี (Ginseng Centre) ศูนย์โสมที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาล โดยในบรรดาสมุนไพรทั้งหมดของเกาหลี โสมนั้นได้รับความนิยมมากที่สุด โดยคนเกาหลีเชื่อว่าโสมนั้นรักษาได้หลายอย่างและช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ให้ท่านได้ชมการสาธิตการผลิตโสมรวมถึงเลือกซื้อโสมราคาประหยัดตามอัธยาศัย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ศูนย์สมุนไพรน้ำมันสนแดง (Red Pine) ศูนย์จำหน่ายน้ำมันที่ผลิตจากสนแดง โดยคนเกาหลีเชื่อว่าน้ำมันสนแดงนั้นช่วยในการลดไขมันและน้ำตาลในเส้นเลือด เหมาะสำรับผู้ป่วยเบาหวาน หรือคลอเรสเตอรอลในเส้นเลือด หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์สาหร่าย (Seaweed Museum) ให้ท่านได้เรียนรู้ต้นกำเนิดของสาหร่ายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่ผลิตและแสดงการเลี้ยงสาหร่ายแบบครบวงจร ให้ท่านได้เลือกซื้อสาหร่ายรสชาติต่างๆตามอัธยาศัย ** พิเศษให้ท่านได้ลองใส่ชุดฮันบก ชุดประจำชาติเกาหลี และสนุกสนานไปกับกิจกรรมทำ Kimbap อาหารพื้นเมืองของเกาหลี***
หลังจากนนั้นนำท่านเดินทางสู่พระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung Palace) พระราชวังที่ได้ขึ้นทะเบียนจาก Unesco ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของเกาหลีเป็นพระราชวังอันดับสองที่สร้างขึ้นต่อพระราชวังเคียงบก (Gyeongbukgung Palace) โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1405 ในรัชสมัยกษัตริย์แทจง ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์หลายพระองค์ในราชวงศ์โชซอล โดยภายในวังจะแบ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นในและเขตพระราชฐานชั้นนอก พระราชวังแห่งนี้ได้รับสมญานามว่า พระราชวังตะวันออก หรือ ทงวอล โดยพระราชวังแห่งนี้ที่มีส่วนที่เรียกสวนลับ หรือ สวนต้องห้าม ซึ่งสวนแห่งนี้เป็นสวนที่ใช้เฉพาะกษัตริย์เท่านั้น แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาได้ ทำให้สวนแห่งนี้ถูกขนานนามว่าสวนต้องห้าม ในปัจจุบันพระราชวังชางด๊อกกุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเกาหลี และเป็นสถานที่ที่คนนิยมมาดูใบไม้เปลี่ยนสีกันในฤดูใบไม้ร่วง
ศูนย์สมุนไพรฮอกเกตนามู – เอ็นโซลทาวเวอร์– ตลาดโบราณควางจัง- ร้านค้าละลายเงินวอน - สนามบิน
นำท่านเดินทางสู่ศูนย์สมุนไพรฮอกเกตนามู (Hocgae Namu Herb) โดยฮอกเก็ตนามูนั้นเป็นสมุนไพรที่ขึ้นเฉพาะประเทศเกาหลี 10 ปีจะออกดอกหนึ่งครั้ง ต้องปลูกในที่อากาศหนาวเย็น บริสุทธิ์ ระดับ 800 เมตรเหนือน้ำทะเล โดยทุกส่วน ไม่ว่ากิ่ง ก้าน ใบ ล้วนเป็นสมุนไพรได้หมด ฮอกเก็ตนามูนั้นมีสรรพคุณช่วยขับสารพิษตกค้างต่างๆออกจากตับอย่างปลอดภัย ฟื้นฟูตับ ทำให้ตับแข็งแรง สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย นำท่านเดินทางสู่ หอคอยเมืองโซล หรือ เอ็นโซลทาวเวอร์ ( N Seoul Tower) หอคอยสัญลักษณ์ของกรุงโซลที่ตั้งอยู่ที่ภูเขานัมซาน มีความสูงจากฐานประมาณ 236.7 เมตร และสูงถึง 480 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งถือว่าเป็นหอคอยที่สูงที่สุดติดอันดับ 1 ใน 18 อันดับของโลก สร้างขึ้นเมื่อปี 1988 แต่เดิมใช้ชื่อ “โซลทาวเวอร์“ และรีโนเวทใหม่ในปี 2005 พร้อมกับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “เอ็นโซลทาวเวอร์” โดยตัวอักษร N เป็นตัวอักษรย่อที่ชื่อความหมายมาจากคำ 3 คำ คือ New (ใหม่), Natural (ธรรมชาติ) และ Namsan (นัมซาน) จึงทำให้เป็นที่รู้จักในอีกชื่อคือ นัมซานทาวเวอร์ (Namsan Tower) อีกด้วย โดยในปัจจุบันนั้นเอ็นโซลทาวเวอร์นับเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงโซล ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันเป็นอย่างมาก ภายในประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
และจุดชมวิวของเอ็นโซลทาวเวอร์นั้นยังนับว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงโซลอีกด้วย **ค่าขึ้นหอคอยไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ ** นอกจากนี้แล้วเอ็นโซลทาวเวอร์ยังนับว่าเป็นสถานที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเกาหลีใต้เพราะเป็นสถานที่ตั้งของ “ Locks of Love” สถานที่คล้องกุญแจชื่อดังที่คู่รักนิยมมาคล้องกุญแจล๊อคกับราวเหล็กบริเวณฐานของเอ็นโซลทาวเวอร์โดยความเชื่อว่ากันคู่รักที่มาคล้องกุญแจจะมีความรักที่ยืนยาวไปตลอดกาล
นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
กรุงเทพ